นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า จากปริมาณจราจรทางอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง ที่รองรับเฉลี่ย 787 เที่ยวบินต่อวัน และสุวรรณภูมิ ซึ่งรองรับ 998 เที่ยวบินต่อวัน หรือรวมประมาณ 1,800 เที่ยวบินต่อวัน ทำให้ บวท. จำเป็นต้องมีการทบทวนปรับปรุงเส้นทางบินเข้า-ออก ทั้งสองสนามบินเพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจราจรทางอากาศ
เส้นทางบินมาตรฐานสำหรับเข้า-ออก (RNAV SIDs/STARs) ที่ใช้อยู่เดิมเป็นเส้นทางที่ใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งรองรับปริมาณเที่ยวบินรวมของทั้งสองสนามบิน 1,600 เที่ยวบินต่อวัน โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา บวท. ได้ทำการติดตามวิเคราะห์ และประเมินผลประสิทธิภาพการใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะ ทั้งจากนักบินและเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ พบว่าเส้นทางบินเดิมยังมีข้อจำกัด เช่น บางจุดมีปริมาณจราจรกระจุกตัวหนาแน่นเกินไป และบางจุดเป็นพื้นที่คอขวด ซึ่งส่งผลต่อความคล่องตัวของการจราจรทางอากาศ ในขณะที่ปริมาณจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6% ต่อปี จึงต้องทำการปรับปรุงเส้นทางบินดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเส้นทางบินในครั้งนี้เป็นการปรับปรุงเพียงบางส่วน (Minor Change) เท่านั้น ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความคล่องตัวของจราจรทางอากาศมากยิ่งขึ้น ลดการล่าช้าของเที่ยวบิน และรองรับปริมาณเที่ยวบินได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 07.00 น.
ทั้งนี้ บวท.ได้ทำการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ซึ่ง บวท.ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับไว้แล้ว ทั้งในเรื่องบุคคลากร วิธีปฏิบัติ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การส่งข้อมูลและการประกาศใช้เส้นทางบินให้กับสายการบิน และหน่วยบินต่างๆ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในด้านระบบอุปกรณ์และแผนฉุกเฉินด้วย