ดอลล์ฟื้นที่ตลาดออสซี่เช้านี้ หลังวิตกศก.สหรัฐกดดอลลาร์อ่อนค่าคืนวาน

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (15 ม.ค.) หลังจากที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืน จากความวิตกกังวลที่ว่า ผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ซบเซาจะยิ่งกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 06.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์ซื้อขายกันที่ 108.26 เยนต่อดอลลาร์ ขยับขึ้นเล็กน้อยเทียบกับระดับ 108.2 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.4865 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4870 ดอลลาร์ต่อยูโร และเงินปอนด์สเตอริงอยู่ที่ระดับ 1.9532 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับระดับ 1.9565 ดอลลาร์ต่อปอนด์ที่ตลาดนิวยอร์ก
          ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายที่ 89.9 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อเทียบกับระดับ  89.95 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่าเมื่อวานนี้เป็นผลจากการรายงานตัวเลขประกาศจ้างงานเฉลี่ยรายสัปดาห์ในออสเตรเลียที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียขยายตัวขึ้นและอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า
          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าลงที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเมื่อวานนี้ หลังจากที่สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ในการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 คืนนี้นั้น ซิตี้กรุ๊ปอาจเปิดเผยตัวเลขการตัดบัญชีหนี้สูญมูลค่ามหาศาลถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารประสบภาวะขาดทุนจากการลงทุนในธุรกิจปล่อยกู้จำนองให้ลูกหนี้กลุ่มซับไพรม์ รวมถึงการปรับลดพนักงานลงอีกกว่า 24,000 อัตรา 
          รายงานดังกล่าว ประกอบกับกระแสความวิตกกังวลต่อสถาบันการเงินรายอื่นๆ และอัตราการใช้จ่ายผู้บริโภค ได้จุดชนวนให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยเป็นการฉุกเฉิน
          จอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอล เปิดเผยว่า "นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% และมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.75% ในปลายเดือนนี้ "