สมาคมนายแบงค์สหรัฐคาดศก.ซบเซาส่งผลอัตราการปล่อยกู้จำนองปีนี้ร่วง 16.2%

          สมาคมนายธนาคารเพื่อการกู้จำนองของสหรัฐคาดการณ์ว่า อัตราการปล่อยกู้จำนองในสหรัฐจะร่วงลงมากกว่า 16% แตะระดับ 1.96 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วที่ระดับ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและภาวะตกต่ำในตลาดปล่อยกู้เพื่อการจำนอง 
          สมาคมฯยังคาดการณ์ด้วยว่า ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐจะร่วงลง 13% ขณะที่ราคากลางของบ้านจะร่วงลงประมาณ 2% ส่วนในปี 2552 นั้นอัตราการปล่อยกู้จำนองลูกค้ารายใหม่จะยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่ายอดขายบ้านและราคาบ้านจะยังทรงตัว
          การผิดนัดชำระหนี้เพื่อซื้อบ้านได้ส่งผลกระทบต่อสถาบันปล่อยกู้จำนองเมื่อปีที่แล้ว โดยนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีคาดว่าตัวเลขขาดทุนจากการปล่อยกู้จำนองจะคิดเป็นวงเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังวิตกกังวลว่าผลประกอบการของเมอร์ริล ลินช์, ซิตี้กรุ๊ป และจีพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค จะทรุดตัวลงมากขึ้น โดยบริษัททั้ง 3 แห่งจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ในสัปดาห์นี้
          นายด็อจ ดันแคน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่งในสหรัฐกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งยังมีความแข็งแกร่งพอที่จะปล่อยเงินกู้เพื่อการจำนอง อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวในธุรกิจการธนาคารนั้นอาจต้องใช้เวลามากกว่าช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินในอดีต 
          ทั้งนี้ นายดันแคนคาดว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐจะชะลอตัวลงมากกว่าที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐคาดการณ์ไว้ โดยคาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะร่วงลง 13% ในปีนี้ แตะระดับ 4.94 ล้านยูนิต ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 4% ในปี 2552 ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ระดับ 5.7 ล้านยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว สำนักข่าวเอพีรายงาน