นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งของไทยและมาเลเซีย โดยมีรองกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบูร รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เข้าร่วม เพื่อเตรียมการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ที่จะช่วยส่งเสริมและขยายโอกาสทางด้านการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการใน 4 จังหวัดภาคใต้และจังหวัดอื่นๆ กับผู้ประกอบการของมาเลเซีย ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 8–10 มีนาคม 2562 ณ สนามกีฬาอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
โดยกิจกรรมภายในงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) งานแสดงสินค้าไทย (4 จังหวัดชายแดนใต้) และมาเลเซีย รวมจำนวน 120 คูหา (2) งานประชุมและสัมมนา คลีนิกการค้าชายแดน (3) การประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชนทั้งไทย-มาเลเซีย เพื่อร่วมมือในการขยายการค้า และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า (4) การแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดภาคเหนือ เช่น เชียงราย พะเยา รวมทั้งสินค้าจากภาคเอกชน ศอบต.ยะลา สมาพันธ์ฮาลาล 5 จังหวัดชายแดนใต้ สมาคมยางพารา เป็นต้น และ (5) การจับคู่เจรจาธุรกิจ
นายอดุลย์ กล่าวว่า นอกจากนี้จะจัดสัมมนาชี้โอกาสในการทำการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการใน 4 จังหวัดภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น สถานการณ์การค้าชายแดนใต้ในปัจจุบัน สินค้าส่งออกสำคัญ และการเตรียมความพร้อมรับมือประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและกำหนดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งการประกาศของกระทรวงพาณิชย์จะบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ จะแนะนำแนวทางการปฏิบัติในการยื่นขอลดหย่อนทางภาษีศุลกากรกับประเทศในอาเซียน (e-Form D) ซึ่งปัจจุบันได้มีการใช้ระบบ e-Form D ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 กับประเทศอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม และกำลังจะผลักดันให้อาเซีย