นายสมชัย สัจจพงษ์ โฆษกกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราและยาสูบเพิ่มอีก 1.5% นั้น ไม่ได้มีผลได้ผลเสียต่อการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตแต่อย่างใด เนื่องจากรายได้จากการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้เป็นการนำเงินส่งเข้าคลัง แต่นำไปใช้เพื่อการอุดหนุนให้กับทีวีสาธารณะแห่งใหม่ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้
โดยคาดว่าปรับขึ้นภาษีสุราและยาสูบอีก 1.5% จะมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรได้ออกประกาศเก็บเงินบำรุงองค์การจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและยาสูบ เพื่อนำส่งเป็นรายได้ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยในอัตรา1.5% ของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบ ตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ เพื่อให้องค์การฯ มีรายได้เพียงพอต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์
โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและยาสูบ มีหน้าที่ส่งเงินบำรุงองค์การฯ ตามอัตราที่กำหนด โดยในกรณีที่ได้รับการงดเว้น ยกเว้น ลดหย่อนหรือคืนภาษี ก็ให้ได้รับการงดเว้น ยกเว้น ลดหย่อน หรือคืนเงินบำรุงองค์การ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด
สำหรับกรณีที่ผู้มีหน้าที่ส่งเงินบำรุงองค์การฯ ไม่ส่งเงินบำรุงองค์การฯ หรือส่งภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนด หรือส่งเงินบำรุงองค์การฯ ไม่ครบตามจำนวนที่ต้องส่ง นอกจากจะมีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว ยังต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5% ต่อเดือนของจำนวนเงินที่ไม่ส่ง หรือส่งภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนด หรือจำนวนที่ส่งขาดไปแล้วแต่กรณี นับจากวันที่ครบกำหนดส่งจนถึงวันที่ส่งเงินบำรุงองค์การฯ แต่เงินเพิ่มที่คำนวณได้ไม่ให้เกินจำนวนเงินบำรุงองค์การฯ และให้ถือว่าเงินเพิ่มนี้เป็นเงินบำรุงองค์การด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--