ดอลล์อ่อนเทียบเยนช่วงบ่าย เหตุนลท.ยังวิตกวิกฤติซับไพรม์-เศรษฐกิจสหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบเงินเยนและเงินยูโรในการซื้อขายช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งจะประกาศหนี้สูญเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์ นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่สู้ดีนักก็ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินก่อนการประชุมวันที่ 29-30 ม.ค.นี้        
          สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ซิตี้กรุ๊ปอาจประกาศหนี้สูญเพิ่มเติมจากวิกฤติซับไพรม์ถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาจต้องปลดพนักงานกว่า 24,000 ตำแหน่ง เมื่อบริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการณ์ประจำไตรมาส 4 ในวันนี้
          คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด ที่เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1% ไปเมื่อปีที่แล้ว มีกำหนดประชุมร่วมกันในวันที่ 29-30 ม.ค. โดยมีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากตัวเลขผู้ว่างงานที่เพิ่มมากขึ้น การใช้จ่ายและการผลิตที่ลดลง รวมถึงความซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน ส่งผลให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายอยู่ที่ 107.86 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจาก 108.26 เยนต่อดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้า โดยร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 107.79 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงบ่าย 
          ด้านเงินยูโรซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.4875 ดอลลาร์ต่อยูโร เพิ่มขึ้นจาก 1.4865 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังแตะระดับสูงสุดที่ 1.4881 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงบ่าย 
          นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ซึ่งเพิ่งส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะให้แถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
          นอกจากรายงานผลประกอบการณ์ของธนาคารและแถลงการณ์ของนายเบอร์นันเก้แล้ว นักลงทุนยังรอตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐ ได้แก่ ยอดค้าปลีก อัตราเงินเฟ้อ และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้