นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประเทศไทย และนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ระหว่างกฟผ. และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเซเสด ฉบับใหม่ เนื่องจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับเดิมครบกำหนดอายุสัญญา โดยฟฟล. ได้ขอเสนอปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่สำหรับทั้งสองโครงการ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริงตามที่มีการซื้อขายไฟฟ้ากันในปัจจุบัน
สำหรับสาระสำคัญของสัญญา ได้แก่ อัตราค่าไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างเจรจาและพิจารณาเสนอขออนุมัติฝ่ายนโยบายที่จะใช้ทำสัญญากับ ฟฟล. สำหรับปี 2562 นั้น ปริมาณไฟฟ้าที่ กฟผ. จะรับซื้อจาก ฟฟล. ให้มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง Peak เท่ากับ 1.80 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off – Peak เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.63 บาทต่อหน่วย และสำหรับปริมาณไฟฟ้าที่ ฟฟล. รับซื้อจาก กฟผ. ให้มีอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง Peak เท่ากับ 1.90 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off – Peak เท่ากับ 1.63 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.73 บาทต่อหน่วย โดยอัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นอัตราที่ใช้ระหว่าง กฟผ. และ ฟฟล. จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ อัตราค่าไฟฟ้าใด ๆ ที่จะใช้ระหว่างกันตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ และตลอดช่วงเวลาการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ จะต้องอยู่ในอัตราระหว่างอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำสุดที่อัตราค่าไฟฟ้าตามสัญญาฯ ปัจจุบัน 1.33 บาทต่อหน่วย และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสูงสุดไม่เกินราคาเฉลี่ย Primary Energy ที่รับซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ IPP ใน สปป.ลาว 2.10 บาทต่อหน่วย
อนึ่ง สำหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้ำงึม 1 ฉบับเดิม ปี 2517 – ปัจจุบัน (ผนวกรวมโครงการน้ำลึก และโครงการน้ำเทิน 2 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา) มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วง Peak เท่ากับ 1.60 บาทต่อหน่วย และในช่วง Off-Peak เท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย และสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าเซเสด ฉบับเดิม ปี 2548 – ปัจจุบัน (ผนวกรวมโครงการเซเสด 2 และโครงการห้วยลำพันใหญ่ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา) มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ณ เวลานั้น ซึ่งในช่วง Peak เท่ากับ 1.60 บาท ต่อหน่วย และในช่วง Off – Peak เท่ากับ 1.20 บาทต่อหน่วย
"การลงนามของทั้งสองฝ่ายในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่นี้ นอกจากจะเป็นการลงนามเพื่อกำหนดราคาให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของพลังงานไฟฟ้าที่มีการซื้อขายกันที่เป็นปัจจุบันแล้ว ยังเป็นการลงนามในวาระครบรอบ 50 ปี สายส่ง สานสัมพันธ์พลังงาน ลาว-ไทย มั่นยืน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป"นายวิบูลย์ กล่าว