นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ (สศช.) หรือสภาพัฒน์เสนอ
โดยร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้ 1. กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน (กนล.) ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้ กนล. มีหน้าที่และอำนาจกำหนดกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ วางแนวทาง หลักเกณฑ์ วิธีการดำเนินงานการบูรณาการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจนในทุกมิติ ทุกระดับ ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงาน เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี กำกับติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ออกประกาศ และคำสั่งเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบนี้
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน (กบล.) ประกอบด้วย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ มีรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ กบล. มีหน้าที่และอำนาจกำหนดกรอบตัวชี้วัดด้านความเหลื่อมล้ำทางสังคมของประเทศ เสนอแนวทาง หลักเกณฑ์ และแผนปฏิบัติการในการบูรณาการพิจารณากลั่นกรองแผนงานและงบประมาณ กำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน เสนอแนะต่อ กนล. ในการกำหนด จัดทำ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ
3. กำหนดให้มีการจัดตั้ง "สำนักงานบูรณาการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาความยากจน" เป็นหน่วยงานภายใน สศช. ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กนล. และ กบล. ปฏิบัติงานธุรการของ กนล. กบล. และคณะอนุกรรมการ
4. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินงานของ กนล. และ กบล. ตามระเบียบนี้
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งได้บรรจุไว้ในแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ 4 ในเรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ซึ่งเมื่อ ครม.วันนี้ได้มีการอนุมัติร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ก็จะถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการต่อสู้กับปัญหาความเหลื่อมล้ำของไทย เป็นการช่วยสร้างสมดุล สร้างความเป็นธรรม และเป็นประสิทธิภาพให้แก่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก
"การกำหนดกรอบนโยบาย และยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำอย่างมีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการร่วมกันของแต่ละหน่วยงานตามกรอบที่วางไว้ และมีการตั้งหน่วยงานกลางในการต่อสู้ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในเชิงรุกนี้ ถือเป็นการปฏิรูปประเทศครั้งสำคัญ เป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นระบบ และสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนในระดับฐานรากต่อไป" นายกอบศักดิ์ระบุ
นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการเปิดงาน "สร้างสุขทุกช่วงวัย" ซึ่งจะมีการลงนามร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานรัฐที่จัดทำสวัสดิการให้แก่ประชาชนตั้งแต่ช่วงเกิดจนถึงเสียชีวิต เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบสวัสดิการของรัฐอย่างบูรณาการ