ครม.ไฟเขียวขยายระยะเวลาสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนพร้อมปรับเงื่อนไข

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 18, 2018 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการขยายระยะเวลาและรายละเอียดการดำเนินงานโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) และโครงการ Transformation Loan เสริมแกร่ง (Soft Loan เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะที่ 2 ภายใต้มาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สู่ยุค 4.0 (มาตรการด้านการเงิน) ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 18 ธ.ค.61 ไปเป็นสิ้นสุดโครงการในวันที่ 18 ธ.ค.62 หรือจนกว่าจะหมดวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการ เนื่องจากยังมีวงเงินโครงการคงเหลืออยู่อีกราว 5.4 หมื่นล้านบาทโดยประมาณ เพื่อให้สามารถนำไปปล่อยกู้ต่อผู้ประกอบการต่อไป

สำหรับโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) มีการปรับอัตราดอกเบี้ย จากเงื่อนไขเดิมคิดอัตราดอกเบี้ยจากผู้กู้ 3% ต่อปีใน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารฯ กำหนด ให้เปลี่ยนเป็นกรณีผู้กู้เป็นบุคคลธรรมดา ปีที่ 1-3 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR -1.875% ต่อปี (ปัจจุบัน MLR = 6.875% หรือเท่ากับ 5% ต่อปี) ปีที่ 4-7 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารฯ กำหนด และหากกรณีผู้กู้เป็นนิติบุคคล ปีที่ 1-3 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR – 3.875% ต่อปี (หรือเท่ากับ 3% ต่อปี) ปีที่ 4-7 ให้เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารฯ กำหนด

อีกทั้งมีการเพิ่มประเภทธุรกิจเป้าหมายที่สามารถขอเข้ารับการช่วยเหลือได้เพิ่มเติม จากเดิมที่เน้นธุรกิจเกษตรกรแปรรูป ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว (หรือธุรกิจท่องเที่ยวชุมชน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์) ผู้ประกอบการใหม่หรือมีนวัตกรรม (หรือธุรกิจผลิต หรือบริการอื่น ๆ ) โดยได้เพิ่มกลุ่มธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก

ส่วนโครงการ Transformation Loan เสริมแกร่ง มีการขยายวงเงินสินเชื่อต่อรายเป็น 50 ล้านบาทโดยขอขยายวงเงินสูงสุดต่อรายรวมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3 โครงการข้างต้นสูงสุดไม่เกินรายละ 50 ล้านบาท จากเดิม 15 ล้านบาท พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการ SME ที่เคยได้รับการอนุมัติและใช้วงเงินสินเชื่อในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ ระยะที่ 2และ 3 รวมทั้งโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรของ SMEs ให้สามารถยื่นคำขอกู้ได้

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Bank กล่าวว่า มติครม.ดังกล่าวเห็นชอบมาตรการด้านการเงินของ ธพว.โดยให้ขยายระยะเวลาสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนวงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนซื้อเครื่องจักร ขยายปรับปรุงกิจการ ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยถูก สำหรับบุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ยเพียง 0.42% ต่อเดือน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท และหากยกระดับเข้าสู่การเป็นนิติบุคคล จัดทำบัญชีเดียว จะมีอัตราดอกเบี้ยถูกลงไปอีก เหลือเพียง 0.25% ต่อเดือนเท่านั้น วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมีการยื่นกู้แล้ว 11,000 ราย วงเงิน 20,000 ล้านบาท อนุมัติแล้ว 9,000 ราย วงเงิน 14,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม. มีมติเห็นชอบให้ ธพว. ออกหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันรวมไม่เกิน 21,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี เพื่อรองรับโครงการดังกล่าว และนำไปใช้ในการให้สินเชื่อแก่เอสเอ็มอีรายย่อยภายใต้โครงการต่างๆ ของ ธพว. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กระทรวงการคลังค้ำประกันให้ ธพว.นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 07

ทั้งนี้ จากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่จะทำให้สถาบันการเงินต่างๆ มีภาระต้นทุนการเงินสูงขึ้น แต่ด้วยนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มอบหมายให้ ธพว. ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีต้นทุนการดำเนินธุรกิจต่ำที่สุด ดังนั้น ธพว.ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร MLR (Minimum Loan Rate) ไว้เท่าเดิมที่ 6.875% ต่อปี อย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.62 จากนั้นจึงจะพิจารณาทบทวนความเหมาะสมอีกครั้งต่อไป

"ด้วยสินเชื่อที่ธนาคารได้คงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้เช่นเดิม ประกอบกับการวางกลุ่มผู้ประกอบการเป้าหมายที่สามารถใช้สินเชื่อได้อย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล รวมถึง มีช่องทางเข้าถึงสินเชื่อที่สะดวกรวดเร็วทุกที ทุกเวลา ผ่านแพลตฟอร์ม SME D Bank เชื่อว่า จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีต้นทุนในการประกอบธุรกิจที่ต่ำ สามารถดำเนินธุรกิจโดยไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย" นายมงคล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ