(เพิ่มเติม) กองทัพเรือ คาดได้ผู้ชนะโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินฯ ภายในมี.ค.62 เปิดดำเนินการต้นปี 67

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 20, 2018 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลเรือตรี เกริกไชย วจนาภรณ์ รองปลัดบัญชีทหารเรือ คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก ในเดือนมี.ค.62 หลังยื่นข้อเสนอในวันที่ 28 ก.พ.62 และคาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 63 ซึ่งใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ปี หรือแล้วเสร็จในปลายปี 66 โดยจะสามารถเปิดดำเนินการได้ราวต้นปี 67

ทั้งนี้ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก มูลค่า 2.7 แสนล้านบาท เป็นโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนแบบ Net PPP Cost และมีเอกชนเข้าซื้อเอกสารประกวดราคามากถึง 42 ราย แบ่งเป็น ต่างชาติ 18 ราย และไทย 24 ราย มากกว่าที่คาดไว้ที่ 35 ราย ซึ่งถือว่าเป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีผู้สนใจมากที่สุด

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า เอกชนที่เสนอผลประโยชน์ให้กับรัฐมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ และเสนอส่วนแบ่งรายได้สูงสุด โดยให้เสนอไม่ต่ำกว่า 5%

ทั้งนี้ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก มีพื้นที่ 6,500 ไร่ และ สกพอ. จะวางแผนแม่บท (MasterPlan)เมืองมหานครการบินที่คาดว่าจะได้ความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังปี 62 โดยพื้นที่จะครอบคลุมรัศมี 30 กม.จากสนามบินอู่ตะเภา ที่จะไม่นับรวมพื้นที่ติดชายทะเล ซึ่ง Master Plan จะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาเมือง 5-20 ปี และปีหน้าจะดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเมืองใหม่นี้

นายคณิศ กล่าวว่า ในพื้นที่รัศมี 30 กม. มีพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังไม่มีการพัฒนาประมาณ 28,000 ไร่ ของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม 6-7 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมเหมราช และนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เป็นต้น

ด้านนาย John D.Kasada ผู้เชี่ยวชาญมหานครการบิน (Aerotropolis) กล่าวว่า การพัฒนาเมืองมหานครการบินนั้น อันดับแรกที่จะลงทุน คือเรื่องการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ต้องมีถนน และระบบราง เพื่อเชื่อมต่อกับการเดินทางไปสนามบินอู่ตะเภา อีกทั้งเมืองมหานครการบิน นอกจากต้องมีการเชื่อมโยงการเดินทางให้มากที่สุดแล้ว ยังต้องเป็นพื้นที่ที่ทันสมัยที่สุด ไม่ใช่แค่เพียงการออกแบบที่สวยงามเท่านั้น

ทั้งนี้ เห็นว่าควรดึงธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องขนส่งสินค้าทางอากาศเข้ามาลงทุนในไทย ได้แก่ ยา, แฟชั่นนำสมัย, ชิ้นส่วนรถยนต์, สินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง, อาหาร, ดอกไม้ และ e-Commerce เป็นต้น ซึ่งได้ให้การแนะนำ 605 บริษัทเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ