นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจในทุกด้านด้วยการนำเทคนิคการบริหารจัดการของธุรกิจ Startup มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน โดย ส.อ.ท.ได้ร่วมมือกับบริษัท คลาวด์คอมเมิร์ซ จำกัด ส่งเสริมให้สมาชิก ส.อ.ท.และภาคอุตสาหกรรมได้รู้จัก Platform ที่จะเชื่อมข้อมูลสินค้าของ SMEs ไทยเข้าสู่ตลาด Online ทั่วโลก โดย Platform ดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งสินค้าไปทั่วโลกกับบริษัท Logistic ชั้นนำได้ง่าย ช่วยลดการส่งและประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ
พร้อมทั้งร่วมมือกับ บริษัท เอ็นเนอร์จี้ เรสปอนส์ จำกัด เพื่อส่งเสริมให้สมาชิก ส.อ.ท.และภาคอุตสาหกรรมได้รู้จักการบริหารจัดการพลังงานในรูปแบบที่มีศักยภาพ เชื่อว่าโครงการความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงการให้ผู้ประกอบการ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในภาคอุตสาหกรรมต่อไป
นายวุฒินันท์ สังข์อ่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาวด์คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสร้างอีโคซีสเต็ม (Ecosystem) ที่ดีให้กับผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ โดยเฉพาะการขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Marketplace ระดับโลกที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Amazon, Etsy และ eBay จากข้อมูลของ World Economic Forum ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาถือครองตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) รายใหญ่ของโลก คิดเป็น 80% และเทรนด์การซื้อขายออนไลน์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
คลาวคอมเมิร์ซจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยสมาชิก ส.อ.ท.ขายสินค้าไปต่างประเทศผ่าน Marketplace ที่มีชื่อเสียง โดยจะช่วยตั้งแต่ต้นน้ำ ได้แก่ ช่วยเลือกสินค้าที่จะนำมาขายบน Marketplace เขียนคอนเทนท์สินค้าเป็นภาษาอังกฤษ การจัดการสต็อกสินค้า ผ่านฟีคเจอร์ Cloud Mall ส่วนเรื่องการจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศ จะมีฟีคเจอร์ที่กำลังมาแรงชื่อ Fast Ship บริการโลจิสติกส์หว่างประเทศ ก่อตั้งได้เกือบสองปี ขณะนี้มีผู้ใช้มากกว่าหนึ่งหมื่นราย ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม
นายไชยวิวรรธณ์ ชูวิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นเนอร์จี้ เรสปอนส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า บริษัทมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เช่น ด้านการจัดการพลังงาน ด้านเทคโนโลยี IoT และด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำระบบจัดการข้อมูลพลังงานเอ็นเรส (ENRES) เข้ามาใช้งาน คือระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารที่สามารถบันทึกแจ้งเตือนความผิดปกติ ไปจนถึงการช่วยวิเคราะห์และควบคุมแบบอัตโนมัติด้วยระบบสมองกลอัจฉริยะ โดยจะช่วยให้เจ้าของอาคารและทีมงาน รู้และเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานอาคาร เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและแก้ไขการใช้งานอาคารให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ