กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.68 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 7 ปี จาก 1.50% มาที่ 1.75%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 200 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตรสุทธิ 5.0 พันล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยรุ่นอายุน้อยกว่า 1 ปี ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลหลักท่ามกลางความกังวลที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัว
"ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่หน่วยงานราชการบางส่วนของสหรัฐฯ จะถูกปิดทำการ ขณะที่การซื้อขายเริ่มเบาบางเนื่องจากวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส"กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุ
ขณะที่จุดสนใจในสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้จะอยู่ที่การผ่านร่างกฏหมายงบประมาณรายจ่ายของรัฐสภาสหรัฐฯ (สภาคองเกรส) หลังจากที่สภาคองเกรสและประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถตกลงเรื่องงบประมาณการสร้างกำแพงเม็กซิโกได้ทันเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวต่อการเจรจานี้อาจทำให้ทิศทางตลาดผันผวนต่อไป ท่ามกลางความกังวลว่าการบรรลุข้อสรุปอาจยืดเยื้อลากยาวข้ามปี
ในส่วนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แม้เรามองว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างมาก 2 ครั้งในปีหน้า การพิจารณานโยบายการเงินของเฟดในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐฯ
สำหรับปัจจัยในประเทศ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุดแสดงถึงการส่งสัญญาณของการปรับสมดุลทางการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงที่ทำให้ระบบการเงินของไทยเปราะบางในอนาคต ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่กระจายตัวมากขึ้น และภาคส่งออกมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ยั่งยืนแม้ชะลอตัวลงจะยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทาง กนง.เดินหน้าในการลดการพึ่งนโยบายผ่อนปรนทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเรามองการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 62