ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวช่วงเช้านี้ (16 ม.ค.) สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังวิตกกับผลกระทบจากวิกฤติซับไพร์มที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าแตะระดับ 106.60 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้า ต่ำสุดตั้งแต่แตะระดับ 106.52 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2548
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 11.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น (9.50 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 106.78 เยนต่อดอลลาร์ กระตื้องขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 106.76 เยนในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย ในขณะที่เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.4827 ดอลลาร์ต่อยูโร เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4785 ดอลลาร์ต่อยูโร
เงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักหลังซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ทางธนาคารขาดทุนกว่า 9.83 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 จากธุรกิจซับไพร์ม นอกจากนั้นยังต้องตั้งสำรองหนี้อีกกว่า 1.81 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกเกี่ยวกับสภาพการเงินของธนาคาร
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังในระหว่างรอให้สถาบันการเงินอื่นๆในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการณ์ ซึ่งจะบ่งชี้ได้ว่าสถาบันเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพร์มมากน้อยเพียงใด โดยเจพี มอร์แกน มีกำหนดเปิดเผยรายงานผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสในวันนี้ ในขณะที่เมอร์ริลล์ ลินช์ จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ยอดค้าปลีกสหรัฐประจำเดือนธ.ค.ที่ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. สะท้อนให้เห็นว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและราคาบ้านที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น
นอกจากนั้นนักลงทุนยังไม่เห็นประโยชน์จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า "แม้เฟดมีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.5% ในการประชุมครั้งหน้า หรือแม้แต่ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินก่อนการประชุมครั้งหน้า นักลงทุนก็ไม่คิดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาซับไพร์มถึงรากถึงโคนได้"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--