นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรจากทุกภาคทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ "ระดับความสุขของเกษตรกรไทย" พบว่า ความสุขมวลรวมของเกษตรกรไทยอยู่ในระดับมากที่สุด (คะแนนเฉลี่ย 82.57 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน) เพิ่มขึ้น 2.37% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจภาคเกษตรมีการขยายตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรขยายตัว 6.1% ในไตรมาสที่ 2/2561 จากเดิมที่ขยายตัวติดลบ 2.1% ในไตรมาสที่ 1/2561
นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และผลไม้ ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากนบายรัฐบาล เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมวิชาชีพตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้กับเกษตรกร โครงการเกษตรแปลงใหญ่และมาตรการเกษตรประชารัฐเพื่อลดต้นทุน การผลิตให้กับเกษตรกรตลอดจนนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของ ธ.ก.ส. ผ่าน 3 มาตรการ 9 โครงการล้วนมีบทบาทในการสนับสนุนให้ครัวเรือนเกษตรกรมีช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้รายได้เกษตรกรโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ สังคมของครัวเรือนชนบทยังคงมีวิถีชีวิตการพึ่งพาอาศัยระหว่างกัน ส่งผลให้ระดับความสุขมวลรวมของเกษตรกรเพิ่มขึ้น
สำหรับความสุขของเกษตรกรไทยในมิติชี้วัดความสุข 6 มิติ พบว่า มิติครอบครัวดีมีคะแนนเฉลี่ยความสุขสูงที่สุด 88.29% รองลงมาคือ มิติสังคมดี 86.55% มิติสุขภาพดี 84.51% มิติการงานดี 82.17% มิติใฝ่รู้ดี 78.31% และมิติสุขภาพเงินดี 75.11% โดยทุกมิติมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด (Very Happy) และเมื่อจำแนกเป็นรายอาชีพ พบว่า เกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเกษตรหลักทุกประเภทมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด (Very Happy) โดยเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้มีคะแนนเฉลี่ยความสุขสูงที่สุด รองลงมาคือ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากราคาผลไม้ที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์สูงทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกร ส่วนราคามันสำปะหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเฉลี่ย 93.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น 39.3% จากความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ภายในประเทศที่ขยายตัว
อย่างไรก็ตาม อาชีพรับจ้างทางการเกษตรมีคะแนนเฉลี่ยความสุขน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับอาชีพการเกษตรอื่นความสุขของเกษตรกรไทย จำแนกเป็นรายภาค พบว่า เกษตรกรทุกภาคมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด (Very Happy) โดยเกษตรกรภาคตะวันออกมีคะแนนเฉลี่ยระดับความสุขสูงที่สุด 84.99% เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่หลักในการปลูกผลไม้ โดยราคาผลไม้ในปี 2561 ปรับตัวสูงขึ้นมากจากความต้องการทั้งภายในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปริมาณผลไม้ที่ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ รองลงมา คือ เกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนล่าง 84.44% และ 84.29% ตามลำดับ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการปลูก มันสำปะหลัง เนื่องจากราคามันสำปะหลังได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเกษตรกรในภาคใต้ตอนล่างมีคะแนนเฉลี่ยระดับความสุขน้อยที่สุด 79.55% เมื่อเทียบกับเกษตรกรในภาคอื่น
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. มีแนวทางสนับสนุนครัวเรือนเกษตรกรในเรื่อง การบริหารจัดการหนี้ การปรับเปลี่ยนการผลิต การลดค่าใช้จ่ายในการผลิต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผ่านมาตรการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคการเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ เช่น โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ โครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้เงินกู้ (3 ปี) มาตรการหนี้นอกระบบเป็นศูนย์ โดยช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบและการช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้อันเป็นภาระหนัก ส่งผลให้ฐานะทางการเงินปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยทำให้ระดับความสุขมวลรวมของเกษตรกรเพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรจากทุกภาคทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ "ระดับความสุขของเกษตรกรไทย" จากกลุ่มตัวอย่าง 1,650 ราย ซึ่งเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 24 กันยายน - 10 ตุลาคม 2561