นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในร่าง พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์และสะพาน (ฉบับที่...) พ.ศ. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์และสะพาน พ.ศ.2497 เพื่อขยายขอบเขตการใช้เงินในมาตรา 6 จากที่กำหนดการใช้เงิน 2 ประเภท คือ เงินค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน และเงินค่าปรับเนื่องจากการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้
โดยให้นำเงินดังกล่าวไปใช้ได้เฉพาะทางหลวงและสะพานที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใน 4 กรณี ได้แก่ ก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และบำรุงรักษาทางหลวงและสะพาน, ใช้ในการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้ทางหลวงและสะพาน, ใช้ในงานส่วนที่เกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียม และใช้ในการชดใช้เงินกู้ในการก่อสร้างและขยายทางหลวงและสะพาน จากเดิมที่รายได้จากค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์สาย 7 และ 9 และเงินค่าปรับจะต้องนำเข้ากองทุนมอเตอร์เวย์
ทั้งนี้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ได้ขยายขอบเขตการเงิน อีก 2 กรณี คือ เงินตอบแทนที่ได้รับจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเงินค่าตอบแทนจากผู้ที่ได้รับคัดเลือกโดยการประมูลในการลงทุนจัดให้มีหรือเข้าบริหารจัดการที่พักริมทาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่นใดในเขตทางหลวงพิเศษที่กำหนดให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมและได้จัดสร้างขึ้น เพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้ทาง
และให้ขยายการนำเงินไปใช้อีก 2 กรณี คือ ใช้ในการก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และบำรุงรักษาทางที่จัดให้มี เมื่อมีการปิดทางหลวงหรือทางอื่นใดที่มีอยู่เดิมเนื่องจากมีการก่อสร้างทางหลวงที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมตัดผ่าน จากเดิมที่กรมทางหลวงจะต้องของบประมาณในการดำเนินการในกรณีนี้ และนำเงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ไปใช้ในการโอนหรือจำหน่ายเงินค่าธรรมเนียมโดยความเห็นชอบของ ครม.ให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จัดตั้งขึ้น โดย ครม.ได้เห็นชอบตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนมอเตอร์เวย์มีรายได้จากค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ สาย 7 และ 9 วันละประมาณ 20 ล้านบาทหรือ ปีละ 6,000 ล้านบาท ซึ่งในข่วงที่ผ่านมาได้นำเงินจากกองทุนไปก่อสร้างมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด ทำให้กองทุนเหลือเงินไม่มาก ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ขณะที่จากการศึกษาของกระทรวงการคลังจะนำรายได้จากค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 ไประดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFF) ของทางหลวง เพื่อนำเงินที่ระดมทุนได้ไปใช้ก่อสร้างโครงการที่มีความพร้อมที่สุด ระหว่างทางยกระดับช่วงศรีนครินทร์-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18.5 กม. เงินลงทุน 35,000 ล้านบาท หรือมอเตอร์เวย์ ฉะเชิงเทรา-นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบ