ธ.ก.ส.จับมือ 3 หน่วยงานร่วมขับเคลื่อนชุมชนไม้มีค่า หนุน 2.6 ล้านครัวเรือน ปลูกต้นไม้พันล้านต้นภายใน 10 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 27, 2018 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการชุมชนไม้มีค่า" ระหว่างนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กับนายยรรยง กางการ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้, นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และนางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) เพื่อขับเคลื่อนโครงการชุมชนไม้มีค่า โดยให้เกษตรกรสามารถสร้างมูลค่าจากการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ สร้างสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

นายอภิรมย์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ธ.ก.ส. และทั้ง 3 หน่วยงาน เป็นการขับเคลื่อนโครงการชุมชนไม้มีค่าตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ซึ่งมีเป้าหมายให้เกิดชุมชนไม้มีค่า 2,000 ชุมชน มีประชาชนได้รับประโยชน์ 100,000 ครัวเรือน มีจำนวนต้นไม้ในประเทศเพิ่มขึ้น 40 ล้านต้นภายใน 1 ปี และจะมีการดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสร้างชุมชนไม้มีค่าให้ได้ 20,000 ชุมชน มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 2.6 ล้านครัวเรือน และมีจำนวนต้นไม้ที่ปลูกเพิ่มขึ้น 1,040 ล้านต้น ภายใน 10 ปี

โดยในส่วนของ ธ.ก.ส. มีแผนงานในการยกระดับโครงการธนาคารต้นไม้ ธ.ก.ส. สู่ชุมชนไม้มีค่า ซึ่งจะมีการพัฒนาผู้ตรวจประเมินมูลค่าต้นไม้เพื่อเป็นหลักประกันทางธุรกิจและผู้ประเมินการกักเก็บคาร์บอนรวม 4,000 คน แผนการสนับสนุนในการกักเก็บคาร์บอนตามแนวทางโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) ให้กับ 6,804 ชุมชน รวมถึงการสร้างวิสาหกิจชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ไม้ของชุมชน เพื่อเพิ่มมูลค่าจากการนำวัตถุดิบที่ได้จากต้นไม้ เช่น กิ่ง ใบ ลำต้น มาแปรรูปไม้และสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยมีเป้าหมาย 400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกธนาคารต้นไม้กว่า 6,827 ชุมชน จำนวนสมาชิก 117,461 ราย และมีต้นไม้ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการ 11,846,190 ต้น

นายยรรยง กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมป่าไม้จะส่งเสริมการให้ความรู้ ด้านพันธุ์ไม้ การคัดเลือกพันธุ์ การเพาะพันธุ์ ตลอดจนสนับสนุนการสร้างศูนย์เพาะชำ โรงเพาะชำชุมชน ในทุก ๆ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการรองรับการผลิตกล้าไม้ให้เพียงพอต่อความต้องการปลูกต้นไม้ตามโครงการดังกล่าว

ด้านนางประเสริฐสุข กล่าวว่า อบก. พร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านวิชาการ การศึกษาและวิจัย เพื่อการดำเนินกิจกรรมการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาของชุมชน การพัฒนาศักยภาพบุคลากรของ ธ.ก.ส. ในการพัฒนาโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) และโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Reduction Program: T-VER) ทั้งจากกิจกรรมภาคป่าไม้และพื้นที่สีเขียวของภาคประชาชน ชุนชน และภาคส่วนต่าง ๆ ตามโครงการชุมชนไม้มีค่าทั่วประเทศ

นางจุฬารัตน์ กล่าวว่า สพภ. จะร่วมให้ความรู้ด้านการปลูกป่าเชิงนิเวศ การประเมินมูลค่าระบบนิเวศในพื้นที่ดำเนินการ และการจัดทำแผนที่พื้นที่สีเขียว เพื่อแสดงข้อมูลและกิจกรรมการอนุรักษ์ ตลอดจนการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนจากการปลูกต้นไม้ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ