คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันนี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี โดยเห็นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแรงส่งที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อน แต่ความไม่แน่นอนของความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อมีมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปจึงมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้
นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจากการบริโภคและการลงทุน ในขณะที่การส่งออกยังขยายตัวได้ดี แต่แนวโน้มราคาน้ำมันและโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวในระยะต่อไปอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า
"การประชุมครั้งนี้ได้มีการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันใหม่ ในกรณีที่ดีที่สุดเฉลี่ยทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 85 เหรียญสรอ./บาร์เรล จาก 68 เหรียญสรอ./บาร์เรล และกรณีเลวร้ายที่สุดปรับเป็น 100 เหรียญสรอ./บาร์เรล แต่เงินเฟ้อก็ยังอยู่ในกรอบประมาณการ ธปท."นางสาวดวงมณี กล่าว
นางสาวดวงมณี กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มที่จะเร่งตัวขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่งจากราคาน้ำมันและราคา สินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะปรับสูงขึ้นตามอุปสงค์ในประเทศที่กำลังฟื้นตัวและการส่งผ่านต้นทุน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานน่าจะยังอยู่ภายในช่วงเป้าหมายตลอด 8 ไตรมาสข้างหน้า
สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 51 มีสัญญาณฟื้นตัว แต่ยังมีประเด็นว่าจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนหรือไม่ เพราะยังมีสัญญาณความเปราะบาง ขณะเดียวกันต่างประเทศก็มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลก การส่งออกของไทยปีนี้จะชะลอลงบ้างจากเศรษฐกิจโลกชะลอ แต่การบริโภคและการลงทุนมีสัญญาณดีขึ้น ซึ่งเครื่องชี้ต่างๆ บ่งบอกว่าเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่ชัดเจน เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
นอกจากนี้ ในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อ 25 ม.ค.นี้จะมีการปรับทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อและประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--