ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2562 อยู่ที่ 1.0%YOY ซึ่งเป็นการปรับลดจากประมาณการเดิม และลดลงจากปี 2561 เล็กน้อย โดยมีปัจจัยหลักจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกปี 2562 ที่คาดว่าจะมีทิศทางลดลงจากปี 2561 เนื่องจากกำลังการผลิต shale oil ของสหรัฐฯ ยังคงมีศักยภาพสูงในการเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบโลก รวมถึงอุปสงค์ที่มีแนวโน้มลดลงตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของปี 2562 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.8%YOY ตามการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องซึ่งจะทำให้แรงกดดันราคาด้านอุปสงค์ทยอยสูงขึ้น อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากค่าจ้างแรงงานที่ยังคาดว่าจะปรับเพิ่มอย่างช้าๆ เพราะตลาดแรงงานยังมีอุปทานส่วนเกิน (slack) หลงเหลือ สะท้อนจากชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยที่ยังคงปรับลดลงในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้อัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
SCB EIC มองว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2562 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ขอบล่างของกรอบนโยบายการเงินจะเป็นข้อจำกัดต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป แม้ กนง.เสียงข้างมากจะแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงที่อาจสะสมจากการที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาอย่างยาวนาน และความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) ซึ่งเป็นเหตุผลหลักของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนนโยบายในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่จากโอกาสที่ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2562 อาจอยู่ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินที่ 1% ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่สำคัญจากสงครามการค้าโลกอีกด้วย ก็จะเป็นข้อจำกัดที่สำคัญของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. เพราะหากประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ในระยะข้างหน้าอยู่ต่ำกว่า 1% จะทำให้ กนง. มีความท้าทายอย่างมากในการสื่อสารและอธิบายเหตุผลของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมภายใต้การดำเนินนโยบายการเงินในรูปแบบเป้าหมายเงินเฟ้อ
"SCB EIC ประเมินว่า กนง.จะดำเนินนโยบายการเงินโดยพิจารณาพัฒนาการของข้อมูลเศรษฐกิจเป็นสำคัญ (data-dependence) และจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปควบคู่กับการใช้มาตรการ Macroprudential เพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงินไปด้วย ทั้งนี้คาดว่า กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีก 1 ครั้งในปี 2562 แต่จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะต่อไปเป็นสำคัญ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ