ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ศก.ยุโรปแนวโน้มชะลอ หนุนดอลล์ฟื้นเทียบเยน,ฟรังซ์

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และฟื้นขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินฟรังซ์สวิส หลังจากนายอีฟ เมอร์ช เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนเรื่องอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุโรป
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 107.60 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 107.07 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 ที่ระดับ 105.93 เยนต่อดอลลาร์
          ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 1.1010 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0913 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1.0839 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          ส่วนค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4661 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4833 ดอลลาร์ต่อยูโร
          "ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นทันทีที่นายเมอร์ช หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า "มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง" ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า อีซีบีจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้" นายไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์กกล่าว
          กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% แต่ดัชนี CPI ตลอดปี 2550 พุ่งขึ้น 4.1 % ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 17 ปี ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งขึ้น ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานเดือนธ.ค ซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนและดัชนี CPI พื้นฐานตลอดปี 2550 เพิ่มขึ้น 2.4%
          นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.499  แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 9.22 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอที่จะชดเชยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนพ.ย.ที่ระดับ 6.31 หมื่นล้านดอลลาร์
          เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคาร ด้วยการเปิดประมูลวงเงินกู้ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ โดยการเปิดประมูลเงินกู้ครั้งล่าสุดมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.95% ซึ่งลดลงจากระดับ 4.65% และ 4.67% ซึ่งได้มีการประมูลในเดือนธ.ค.