นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จะคลี่คลายลงชั่วคราว หลังจากที่ 2 ประเทศได้ตกลงที่จะยุติการขึ้นภาษีสินค้าเป็นเวลา 90 วัน แต่มาตรการที่ได้บังคับใช้ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ยังคงมีผลอยู่ โดยเฉพาะจีนที่ได้ขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ มากกว่า 5,000 รายการ จึงยังเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการขยายเข้าสู่ตลาดจีนแทนสินค้าจากสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น และหากสินค้าดังกล่าวอยู่ในรายการที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ก็ยิ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับผู้ส่งออกไทยในการส่งสินค้าเจาะตลาดจีนได้ง่ายขึ้น
สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะมีโอกาสส่งออกไปจีนทดแทนสินค้าสหรัฐฯ ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น อาหารทะเลจำพวกปลาแช่แข็งบางชนิด กุ้งแช่แข็ง ผลไม้จำพวกส้มสด/แห้ง และผลไม้แห้งอื่นๆ ข้าว ผลไม้ปรุงแต่งและน้ำผลไม้ กากเหลือจากอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เช่น น้ำมันและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เคมีภัณฑ์ พวกโพลิอะซีทัล ขั้นปฐม โพลิเมอร์ของเอทิลีน ขั้นปฐม ยางสังเคราะห์ กระดาษชำระและกระดาษที่คล้ายกันอื่นๆ เศษและของที่ใช้ไม่ได้ที่เป็นอลูมิเนียม แผ่นและแถบทำด้วยอลูมิเนียม รถยนต์และยานยนต์อื่นๆ สำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก และรถจักรยานยนต์ ฐานรองฟูก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการของหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E เพื่อใช้สิทธิลดภาษีในช่วง 10 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ต.ค.) พบว่า มีการใช้สิทธิเพิ่มขึ้น โดยสินค้าเกษตรที่มีการใช้สิทธิเพิ่ม เช่น ปลายข้าว เพิ่ม 15.62% ผลไม้แห้งอื่นๆ เพิ่ม 9.40% ผลไม้ ลูกนัต และของผสมของผลไม้อื่นๆ เพิ่ม 18.18% น้ำผลไม้/น้ำพืชผักอื่นๆ ชนิดเดียว เพิ่ม 260.46% สับปะรด เพิ่ม 76.45% และปูแช่แข็ง เพิ่ม 116.33% และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ เพิ่ม 2.93% โพลิคาร์บอเนต เพิ่ม 46.76% รถยนต์ส่วนบุคคล ความจุกระบอกสูบ 1,500-3,000 ลบ.ซม. เพิ่ม 148.76% เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดอยู่คงที่ เพิ่ม 30.05% และกล้องโทรทัศน์/กล้องถ่ายบันทึกภาพดิจิทัล/กล้องถ่ายบันทึกวีดีโอ เพิ่ม 157.13%
"กรมฯ ขอให้ผู้ส่งออกที่จะส่งออกสินค้าไปยังตลาดจีน ให้ทำการตรวจสอบก่อนว่าสินค้าที่จะส่งไปได้รับสิทธิพิเศษภายใต้ ACFTA หรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มที่มีโอกาสส่งออกไปยังจีนเพื่อทดแทนสินค้าจากสหรัฐฯ เพราะถ้าได้สิทธิลดหย่อนภาษี การใช้สิทธิ ก็จะทำให้สินค้ามีต้นทุนถูกลง และเจาะตลาดจีนได้ง่ายขึ้น" นายอดุลย์กล่าว
ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดการค้าที่สำคัญอันดับ 2 ของไทย รองจากกลุ่มประเทศอาเซียน โดยในปี 2560 มีปริมาณการค้ารวม 74,139.39 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 10 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยมีมูลค่าการค้ากับจีนรวม 66,392.93 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.41% เป็นการส่งออก 24,703.76 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้า 41,689.17 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอัตราการใช้สิทธิฯ Form E ส่งออกไปจีน มีการขอใช้สิทธิฯ รวมมูลค่า 14,708.27 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 28.73% เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีการขอใช้สิทธิฯ 11,425.86 ล้านเหรียญสหรัฐ