นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยตั้งวงเงินรายจ่ายไว้จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณขาดดุล 450,000 ล้านบาท เท่ากับปี 62 และประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิที่ 2.75 ล้านล้านบาท ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5.2% ของจีดีพี
การจัดทำงบประมาณดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมุติฐานคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 63 ขยายตัวในอัตรา 3.5-4.5% ต่อปี หรือ และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 0.8-1.8%
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท หรือ 6.7% จากปีงบประมาณ 62 แบ่งเป็น
1 รายจ่ายประจำ 2.358 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.57 หมื่นล้านบาท หรือ 3.8% จากปีงบประมาณ 62 คิดเป็นสัดส่วน 73.7% ของวงเงินงบประมาณ
2. รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 6.27 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2% ของวงเงินงบประมาณ
3. รายจ่ายลงทุน 6.91 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2 หมื่นล้านบาท หรือ 6.5% จากปีงบประมาณ 62 คิดเป็นสัดส่วน 21.6% ของวงเงินงบประมาณ
4. รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 8.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4 พันล้านบาท หรือ 12.1% จากปีงบประมาณ 62 คิดเป็นสัดส่วน 2.7% ของวงเงินงบประมาณ
ส่วนประมาณการรายได้สุทธิ ที่ 2.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท หรือ 7.8% จากประมาณการรายได้สุทธิในปีงบ 62 ขณะที่งบประมาณขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ 62 คิดเป็น 2.4% ของ GDP
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 63 อยู่ภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจไทยปี 63 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5-4.5% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตามการเร่งเบิกจ่ายของโครงการลงทุนสำคัญที่มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 63-64 ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวในเกณฑ์ดี