ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้(17 ม.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.75% ในที่ประชุมเดือนนี้
โดยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจของเฟดบ่งชี้ว่า ในช่วงกลางเดือนพ.ย.จนถึงเดือนธ.ค.ปี 2550 นั้น เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง แต่ยังขยายตัวช้ากว่าที่ได้มีการสำรวจในช่วงก่อนหน้านี้
โทโมโกะ ฟูจิ นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า "การซื้อขายเงินสกุลเงินดอลลาร์มีอยู่เบาบาง เนื่องจากวิกฤตซับไพรม์ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดลงได้ในเร็ววัน ซึ่งทำให้นักลงทุนบางกลุ่มจับตาการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อปรับลดดอกเบี้ยของเฟด"
นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และ เจพี มอร์แกน เชส ยังได้รายงานยอดตัดบัญชีหนี้สูญที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการขาดทุนในตลาดซับไพรม์
"ภาคธุรกิจการเงินในสหรัฐที่อ่อนแอได้ส่งผลให้สถาบันการเงินกำหนดเงื่อนไขการให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ" ฟูจิกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงทั้งสิ้น 0.50% ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆและร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร โดยเฟดจะประชุมกันในวันที่ 29-30 ม.ค.เพื่อตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 106.94 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 107.3 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแตะระดับ 106.16 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดฮ่องกงเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2558
ขณะที่ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวขยับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1.4656 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4653 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--