นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการสายงานธุรกิจสินค้าเกษตรและอาหาร กล่าวว่า ตามที่สหภาพยุโรป หรือ EU ประกาศให้ประเทศไทยได้ใบเหลืองในการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ภายหลังจากรัฐบาลได้การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ส่งผลให้ล่าสุด สหภาพยุโรป (EU) ได้ปลดล็อคใบเหลือง IUU Fishing
ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทย โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง ขอขอบคุณ และชื่นชมรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการแก้ไขปัญหา IUU Fishing มาตลอดระยะเวลา 4 ปีซึ่งสะท้อนให้สังคมโลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นผู้นำภูมิภาคในการแก้ไขปัญหา IUU Fishing อย่างแท้จริง
รวมทั้ง การดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว แรงงานเด็ก และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยในปี 2561 รายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ TIPs Report ประเทศไทยอยู่ที่ระดับ Tier 2 ทั้งหมดนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับประเทศไทย ในการการพัฒนาธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมประมงของไทยในอนาคต ตลอดจนการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย และการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สินค้าประมงที่ส่งออกไปต่างประเทศต่อตลาดโลก และประเทศผู้นำเข้าให้เกิดการยอมรับอย่างยั่งยืน
นายพจน์ กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าต่างๆ ประกอบด้วย สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป และสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย จะร่วมมือสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทุกอย่างของ รัฐบาลให้สอดคล้องกับข้อกำหนด กฎหมาย ทั้งของไทยและมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ สร้างความยั่งยืน และความเชื่อมั่นต่อภาพลักษณ์สินค้าประมงไทยต่อนานาประเทศไป
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ผลดีจากกรณีปลดล็อคใบเหลือง จะทำให้การส่งออกอาหารทะเลของไทยเพิ่มขึ้นแน่นอน คาดว่าในปี 62 จะมีมูลค่าส่งออกอาหารทะเลสำเร็จรูปเพิ่มอีก 12,000-15,000 ล้านบาท เพราะทั่วโลกจะมั่นใจสินค้าไทยมากขึ้น