น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมฯ ได้นำคณะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการของไทยจำนวน 16 บริษัท ได้แก่ สบู่ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หมอน ที่นอน ผ้าปูที่นอน ผลิตภัณฑ์ตกแต่งโรงแรม ผลิตภัณฑ์เครื่องแก้ว และเฟอร์นิเจอร์ เดินทางไปขยายตลาดที่ญี่ปุ่น โดยได้พบปะและเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้า ผู้ประกอบการผู้ค้าปลีกและส่ง ฝ่ายจัดซื้อโรงแรม รวมทั้ง Organizer จัดงานศพ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีการจับคู่ทางธุรกิจจำนวน 70 คู่และมีการสั่งซื้อภายใน 1 ปี มีมูลค่า ประมาณ 19,882,500 บาท
สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไม้สำหรับตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร เฟอร์นิเจอร์อลูมิเนียม-ไม้ ชุดเครื่องนอน (ผ้าปูนอน ปลอกหมอน) ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและบำรุงเส้นผม และผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น โดยสินค้าที่มีเอกลักษณ์และมีความแตกต่าง เช่น การใช้ส่วนผสมวัตถุดิบพื้นบ้านไทยในสินค้า amenity จะได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าญี่ปุ่นมากกว่า
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยจากข้อมูลกรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น Japan Tourism Agency (JTA) พบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในปี 2558 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 25.5 ล้านล้านเยน ประมาณ 76,500 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติในญี่ปุ่นมีมูลค่าประมาณ 3.3 ล้านล้านเยน ประมาณ 99,000 ล้านบาท
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2555 มีจำนวน 8.36 ล้านคน เพิ่มเป็น 28.7 ล้านคนในปี 2560 อีกทั้งในปี 2563 ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการจัดงานโอลิมปิก 2020 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะสูงถึง 40 ล้านคน ทำให้ธุรกิจโรงแรมมีการขยายตัว สินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม เช่น เครื่องใช้ในห้องน้ำ (สบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิว) เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับตกแต่งโรงแรม และผ้าปูที่นอน เป็นต้น มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรมฯ จะใช้โอกาสนี้ในการผลักดันสินค้าของผู้ประกอบการไทยเข้าไปสู่ตลาดญี่ปุ่นให้ได้เพิ่มมากขึ้นต่อไป