นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่มี การเผยแพร่ข่าว เรื่อง ผู้บริจาคจะต้องมีการลงทะเบียนผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) กับกรมสรรพากรเท่านั้น จึงจะ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไปว่า
1. ผู้บริจาคสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับการบริจาค ให้แก่ศาสนสถาน โรงพยาบาล องค์กรสาธารณกุศลอื่นๆ ได้ตาม ปกติ โดยไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนกับกรมสรรพากร หรือต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-Donation เพื่อสามารถใช้สิทธิลดหย่อน ภาษี
อย่างไรก็ตาม การบริจาคผ่านระบบ e-Donation จะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริจาค โดยไม่ต้องเก็บเอกสารหลักฐานการบ ริจาค และสามารถตรวจสอบข้อมูลการบริจาคได้ตลอด 24 ชม. ผ่านทาง www.rd.go.th
2. กรณีการบริจาคให้แก่สถานศึกษา หากผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดา ประสงค์จะนำเงินมาหักลดหย่อนเป็นจำนวนสองเท่า จะต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e – Donation เท่านั้น เริ่มบังคับใช้สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ. ศ. 2562
3. รายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอื่นๆ เช่น LTF/RMF เบี้ยประกันชีวิต ดอกเบี้ยเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ผู้เสียภาษียัง สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ ยกเว้นการลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ ซึ่งผู้เอาประกันสุขภาพต้องยินยอมให้บริษัทประกันส่งข้อมูลค่า เบี้ยประกันสุขภาพให้กรมสรรพากรในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จึงจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
รายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เอกสาร/หลักฐานในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Donation กระดาษ 1. การบริจาคให้ศาสนสถาน โรงพยาบาล และองค์กรสาธารณกุศลอื่น ๆ / / 2. รายการลดหย่อนอื่นๆ เช่น LTF/RMF เบี้ยประกันชีวิต ดอกเบี้ยเพื่อซื้อ / ที่อยู่อาศัย ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเกษตร ชุมชน และทุนมนุษย์ (ยาง,หนังสือ,OTOP) เป็นต้น 3. การบริจาคให้สถานศึกษา* / / (ลดหย่อน 2 เท่า) (ลดหย่อน 1 เท่า) 4. เบี้ยประกันสุขภาพ /