นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ จะใช้โอกาสในการนำคณะผู้แทนการค้าไทยที่ได้ดำเนินการร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เดินทางไปเจรจาจับคู่ธุรกิจ ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 16-18 มกราคม 2562 ในการประชาสัมพันธ์โครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของอินโดนีเซียและมาเลเซีย (YEN-D Plus Program) เพื่อชักชวนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของอินโดนีเซียที่เป็นเจ้าของกิจการอายุไม่เกิน 45 ปี จำนวน 30 คน เข้าร่วมสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยจำนวน 30 คน ซึ่งจะเริ่มโครงการในเดือนมีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้
"การจัดโครงการ YEN-D Plus เป็นการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย ไปสู่ประเทศนอกกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดิม เพื่อต้องการสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้กว้างขวางมากขึ้น โดยการเดินทางไปอินโดนีเซียครั้งนี้ จะเข้าพบปะหารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สำคัญของอินโดนีเซีย คือ กระทรวงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Coordinating Ministry of Economic Affairs) กับหอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย (KADIN) ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ชักชวน และขอให้แจ้งให้กับนักธุรกิจอินโดนีเซียที่สนใจมาเข้าร่วมโครงการ" นายอดุลย์กล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันโครงการ YEN-D สามารถสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV รวมเป็นจำนวน 1,184 คน มีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 4,000 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2558 และปี 2562 ถือเป็นครั้งแรกที่ขยายโครงการสร้างเครือข่ายไปสู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่นอกกลุ่ม CLMV มีเป้าหมายที่อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยอินโดนีเซีย จะอบรมสร้างเครือข่ายเดือนมีนาคม 2562 และมาเลเซียเดือนพฤษภาคม 2562 ซึ่งจะมีการเดินสายไปชักชวนนักธุรกิจรุ่นใหม่ของมาเลเซียระหว่างวันที่ 30 – 31 มกราคม 2562 เพื่อให้เข้าร่วมโครงการต่อไป
นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมเจรจาจับธุรกิจ ณ กรุงจาการ์ตาในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนภายใต้แผนงานการพัฒนาความร่วมมือเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย ระหว่างประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย (Indonesia - Malaysia - Thailand Growth Triangle : IMT-GT) โดยได้นำผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ ไปหาโอกาสในการขยายตลาดการค้าและการลงทุนกับผู้ประกอบการอินโดนีเซีย มีผู้ประกอบการจากกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เป็นต้น เข้าร่วม
"กรมฯ ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ที่จะนำผู้นำเข้าอินโดนีเซียมาร่วมงานเจรจาธุรกิจกับคณะผู้ประกอบการไทย และกรมฯ ยังจัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าพบนักธุรกิจนำเข้า หรือ Knock Door ณ ที่ทำการของบริษัทนำเข้าโดยตรงอีกด้วย ซึ่งมั่นใจว่า จะช่วยสร้างโอกาสในการค้าขายให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างแน่นอน" นายอดุลย์ กล่าว
ปัจจุบัน การค้าระหว่างไทย-อินโดนีเซีย ในปี 2560 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,146.33 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 16,935.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.54% เป็นการส่งออกมูลค่า 9,409.94 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำตาลทราย เป็นต้น และนำเข้ามูลค่า 7,525.74 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ ถ่านหิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เป็นต้น