นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กล่าวว่า สภาพัฒน์ได้ประเมินว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ในช่วงไตรมาส 4/50 จะขยายตัวที่ระดับ 5.5% เนื่องจากการส่งออกขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ทั้งปี 50 จีดีพีขยายตัวในระดับ 4.7% ซึ่งสูงกว่าที่ประเมินไว้ที่ 4.5%
ทั้งนี้ สภาพัฒน์จะได้จัดทำแผนงานเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาดำเนินการ โดยนำข้อเสนอของภาคเอกชนมาประมวลเอาไว้ด้วย เช่น แผนโลจิสติกส์, การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้(เซาเทิร์นซีบอร์ด), การเร่งรัดโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน 5 สาย, การขยายเวลาโครงการกองทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีไปจนถึงสิ้นปี 51, การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น แต่จะสรุปเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันได้พิจารณาก่อน
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กกร.)ว่า งานที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลสานต่อ คือ โครงการเมกะโปรเจ็คต์ และโครงการรถไฟรางคู่ ซึ่งขณะนี้บางส่วนก็คืบหน้าไปแล้ว แต่บางส่วนยังอยู่ในช่วงการประมูล ซึ่งภาคเอกชนต้องการให้เกิดความต่อเนื่อง นอกจากนี้ภาคเอกชนยังต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมการขนส่งทางน้ำให้มากขึ้นด้วย
ส่วนการทำงานระว่างรัฐบาลและภาคเอกชนตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนให้ความร่วมมือกับภาครัฐได้อย่างเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ยังมีบางอย่างต้องสานต่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป และอยากเห็นรัฐบาลทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างนี้ตลอดไป
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--