ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: นลท.เมินแผนกระตุ้นศก. ถ่วงดอลล์อ่อนเทียบยูโร,เยน

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แม้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.4673 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4661 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.9713 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9642 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 107.00 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.60 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 106.58 เยนต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.1003 ฟรังซ์สวิสต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1010 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0299 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0234 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
          นายเดวิด โซลิน นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์ กล่าวว่า แม้เบอร์นันเก้ไม่ได้ระบุถึงมาตรการหรือแผนการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเฉพาะเจาะจง แต่ก็พูดโดยรวมถึงมาตรการทั่วไปที่จะกอบกู้เศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย ซึ่งรวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษี ขณะที่บุชกล่าวว่า เขาจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันศุกร์
          "เราคาดว่าการประกาศมาตรการเศรษฐกิจยังไม่สามารถพยุงดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้นได้ เพราะมีข้อมูลมากมายที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมาก สิ่งที่เบอร์นันเก้ออกมาพูดครั้งล่าสุดก็เหมือนกับย้ำมุมมองเดิมที่เขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นเฟดจะต้องใช้ยาแรงมากกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการลดหย่อนภาษี เพื่อจะกอบกู้เศรษฐกิจไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้" นายโซลินแสดงความเห็น
          "และหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน เราก็คาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้" เขากล่าว
          ผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กิจกรรมการผลิตภาคโรงงานในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐ ร่วงลงอย่างรุนแรงในเดือนม.ค. ซึ่งตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจดิ่งลงสู่ระดับ -20.9 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ -1.6 จุด ในเดือนธ.ค. 
          นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 14.2% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 16 ปีที่ 1.006 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.140 ล้านยูนิต และเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2534