ก.พลังงาน นัดถกกลุ่มโรงกลั่นสัปดาห์นี้หารือปรับมาตรฐานน้ำมันหวังช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ธพ.เตรียมที่จะเรียกประชุมกลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือถึงการปรับมาตรฐานน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยปัจจุบันใช้มาตรฐานบังคับในระดับยูโร 4 ที่มีค่ากำมะถัน 50 ppm เป็นการใช้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีค่ากำมะถัน 10 ppm ซึ่งหากสามารถเร่งดำเนินการได้ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นต้องการรับฟังความเห็นของผู้ประกอบการโรงกลั่นว่าจะมีความพร้อมปรับปรุงให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 เมื่อใด

ทั้งนี้ จากการศึกษาก่อนหน้านี้คาดว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการลงทุนเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

อนึ่ง ประเทศไทยได้ปรับเพิ่มมาตรฐานน้ำมันมาโดยตลอด โดยประกาศใช้มาตรฐานยูโร 4 ตั้งแต่ปี 55 และเดิมมีแผนจะประกาศใช้มาตรฐานยูโร 5 ตั้งแต่ปี 61 และให้ทุกโรงกลั่นฯเริ่มผลิตได้ในปี 65 แต่จนถึงปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษ ยังไม่ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เกิดการประกาศใช้มาตรฐานน้ำมัน ยูโร 5 ซึ่งหลังประกาศใช้ ทางกรมธุรกิจพลังงานก็จะประกาศมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 5 และให้โรงกลั่นใช้เวลาปรับปรุงประมาณ 5 ปี

เมื่อปี 60 กรมควบคุมมลพิษได้หารือกับค่ายรถยนต์และ 6 โรงกลั่นน้ำมันของไทย ซึ่งในขณะนี้มีบางส่วนของ 3 โรงกลั่น ได้แก่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ,บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบมจ.ไทยออยล์ (TOP) เริ่มผลิตน้ำมันยูโร 5 ได้แล้ว โดยกลุ่มโรงกลั่นบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการปรับเป็นมาตรฐานยูโร 5 เพราะต้องมีการลงทุนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/โรง หรือคิดเป็นการลงทุนของทั้ง 6 โรงกลั่นรวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท และอาจมีผลทำให้ต้นทุนดีเซลปรับเพิ่ม ราว 0.50-1.00 บาท/ลิตร ขณะที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนมลพิษที่ชัดเจน และต้องพิจารณาถึงการผลิตรถยนต์ที่สามารถรองรับน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ด้วยจึงทำให้การประกาศมาตรฐานยูโร 5 ไม่คืบหน้า