ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) คาดเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 4% ต่ำกว่าที่ทางการคาด เนื่องจากมองว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะผลกระทบที่มีต่อภาคการส่งออก และการเมืองหลังการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งค่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ ก่อนอ่อนค่าในช่วงครึ่งหลังของปี
น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด(ไทย)กล่าวในการสัมมนา"เศรษฐกิจโลกปี 51"ว่า ว่า ทางการควรจะใช้นโยบายการเงินเข้ามากระตุ้นในช่วงที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เพราะขณะนี้เงินเฟ้อไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะราคาน้ำมัน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้อยู่แล้ว และเป็นปัญหาเดียวกับทั่วโลก
การลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนและผู้บริโภคมั่นใจและใช้จ่ายมากขึ้น เพราะกว่าที่รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาและสามารถดำเนินนโยบายด้านการคลังได้ก็คงเกิดขึ้นในราวไตรมาส 2/51 เป็นต้นไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับเพิ่มวงเงินงบประมาณรายจ่าย เพื่อหวังกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น
สำหรับค่าเงินบาท มองว่าครึ่งปีแรกยังคงแข็งค่าตามเงินสกุลอื่น ๆ ของโลก เนื่องจากแนวโน้มเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าลง คาดว่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าทดสอบระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ แต่คาดว่าจะเห็นเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลังของปี 51
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--