ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบเงินเยนในการซื้อขายช่วงบ่ายในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเทขายเงินเยนเพื่อทำกำไร ส่งผลให้เกิดการกว้านซื้อเงินดอลลาร์เพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์
ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 105.92 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% ในสิ้นเดือนนี้
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในวันนี้คือ การที่รัฐบาลของบุชมีแผนอัดฉีดเงิน 1.5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา โดยบุชมีกำหนดเปิดเผยแผนการดังกล่าวในวันนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เงินดอลลาร์ซื้อขายอยู่ที่ 107.07 เยนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 106.61 เยนต่อดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย
ด้านเงินยูโรซื้อขายอยู่ที่ 1.4644 ดอลลาร์ต่อยูโร เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากระดับ 1.4643 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้า
"ในระยะหลังมีการเทขายเงินดอลลาร์อย่างหนัก ตอนนี้จึงมีการปรับฐานและการเทขายทำกำไรเกิดขึ้นในตลาด" โธมัส แลม นักเศรษฐศาสตร์การคลังจากธนาคารยูโอบีกล่าว
นักลงทุนบางรายเข้าซื้อเงินดอลลาร์ก่อนที่ตลาดจะหยุดทำการเป็นเวลา 3 วัน คือในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง
ในระยะหลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีข้อมูลที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย อาทิ ตัวเลขภาคการผลผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ ยอดค้าปลีก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง ในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นการตั้งกองทุนสำรองหนี้สูญจากวิกฤติซับไพร์มของซิตี้กรุ๊ป, เจพี มอร์แกน เชส และ เมอร์ริลล์ ลินช์ ยิ่งสร้างความกังวลมากขึ้น
"เงินดอลลาร์คงยังไม่ฟื้นตัวในช่วงนี้" นายแลมกล่าว "เนื่องจากเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันบางอย่างอยู่"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--