ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากปัจจัยสงครามการค้า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนการแข็งค่าของเงินบาท ยังเป็นความท้าทายของการส่งออกไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 นี้ ซึ่งอาจจะทำให้ภาพรวมการส่งออกไทยในช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ต่ำกว่าประมาณการส่งออกทั้งปี 2562 ที่ 4.5% เนื่องจากมีหลายปัจจัยท้าทายที่ยังรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆ ชะลอตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบโลกที่อยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นแรงฉุดมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม ค่าของเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ไทยเสียเปรียบคู่แข่งในเรื่องของราคาสินค้าส่งออก รวมไปถึงปัจจัยฐานที่สูงในปีก่อนแม้ในไตรมาสที่ 1/2562 จะเป็นนอกฤดูกาลส่งออก (Low season)
นอกจากนี้ แม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนในประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่จะครบกำหนดการเลื่อนระยะเวลาการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 25% ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในวันที่ 1 มี.ค.62 แต่สถานการณ์ก็มีแนวโน้มจะลดความตึงเครียดลง กล่าวคือ แม้ว่าสถานการณ์ทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ จะไม่กลับคืนไปสู่จุดเดิมก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า แต่ก็คาดว่าจะไม่เลวร้ายลุกลามไปมากกว่านี้ ซึ่งน่าจะทำให้ความตึงเครียดของบรรยากาศการค้าโลกบรรเทาลง และทำให้แต่ละประเทศลดการเร่งนำเข้า-ส่งออก (Front-loading) อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงขวบปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับมูลค่ามูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในเดือนธ.ค.61 อยู่ที่ 19,381.4 ล้านดอลลาร์ฯ ติดลบ 1.7% ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยตลอดทั้งปี 2561 ขยายตัวที่ 6.7% ซึ่งต่ำกว่าคาด เป็นผลมาจากการหดตัวของการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทยหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นข้าว (หดตัว 5.5%) ยางพารา (หดตัว 32.3%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (หดตัว 22.8%) กุ้งสดแช่งแข็งและแปรรูป (หดตัว 13.2%) รวมไปถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (หดตัว 13.5%)
ในขณะที่การส่งออกสินค้าแร่และเชื้อเพลิงขยายตัวแผ่วลงจากเลข 2 หลักในช่วงก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2.0% ในเดือนธ.ค.61 ซึ่งเป็นผลมาจากระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ในเดือนธ.ค.61 อยู่ต่ำกว่าช่วงเดือนธ.ค.60 เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดโลก
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาด CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) ติดลบ 4.2% ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 29 เดือน เป็นผลมาจากการหดตัวของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา และการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปลาว เวียดนาม และเมียนมา เป็นสำคัญ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การส่งออกสินค้าของไทยในเดือนธ.ค.61 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกสินค้าของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค โดยหลักแล้วยังเป็นผลต่อเนื่องมาจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ทำให้แต่ละประเทศมีการเร่งนำเข้า-ส่งออก (Front-loading) ไปในช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ทยอยผ่อนแรงลงในช่วงไตรมาสที่ 4/2561 รวมไปถึงการชะลอตัวของอุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลก เนื่องจากอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น 5G