นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ
ทั้งนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์ได้มีการประมาณการแผนทางการเงินตามสภาวการณ์ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกตามปีงบประมาณ 2561 และคาดว่าจะมีจำนวนผู้มาใช้บริการรับจำนำประมาณ 1,339,419 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2561 จำนวน 38,630 ราย เนื่องจากประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำด้วยการนำทรัพย์สินมาจำนำกับโรงรับจำนำของรัฐบาลที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าแหล่งเงินทุนและโรงรับจำนำเอกชน โดยประมาณการจำนวนเงินการรับจำนำประมาณ 19,555.52 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ประมาณ 569.05 ล้านบาท
การกู้เงิน จำนวน 500 ล้านบาทของสำนักงานธนานุเคราะห์ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้ใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียนและรองรับธุรกรรมการรับจำนำของประชาชนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการประมาณการข้างต้น รวมทั้งเพื่อประกันการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ ซึ่งหากกู้เงินแล้วจะสามารถได้รับรายได้รวมจำนวน 795.39 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 438.16 ล้านบาทแล้ว จะมีกำไรสุทธิ จำนวน 357.23 ล้านบาท ตามการประมาณการงบทำการรับจำนำปีงบประมาณ 2562
สำหรับแผนการกู้เงินปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท กระทรวงการคลัง และ พม. พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนักงานธนานุเคราะห์มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ซึ่งวงเงินดังกล่าวได้รับบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2562 แล้ว