(เพิ่มเติม) โตโยต้า เผยตลาดรวมรถยนต์ในประเทศปี 61 โต 19% มาที่ 1,039,158 คัน/คาดยอดรวมปีนี้ 1 ล้านคัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 22, 2019 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 61 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 1,039,158 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบกับปี 60 โดยตลาดรถยนต์นั่งมียอดขาย 397,542 คัน เพิ่มขึ้น 14.8% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 641,616 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) มียอดขาย 511,676 คัน เพิ่มขึ้น 20.6% และ รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) มียอดขาย 447,069 คัน เพิ่มขึ้น 22.6%

นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศปี 61 ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผลักดันให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทยเติบโต 4.2% ส่งผลให้มียอดขายเกิน 1 ล้านคันเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของตลาดรถยนต์ไทย

สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในปี 2562 นายซึงาตะ คาดว่า จะมีปริมาณขายรวมอยู่ที่ 1 ล้านคัน ลดลง 3.8% จากปี 61 โดยคาดว่าตลาดรถยนต์นั่งจะมียอดขาย 384,900 คัน ลดลง 3.2% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 615,100 คัน ลดลง 4.1% ขณะที่รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) จะมียอดขาย 494,500 คัน ลดลง 3.4% และ รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) คาดมียอดขาย 430,500 คัน ลดลง 3.7%

"แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากการลงทุนภาครัฐที่ชัดเจนและต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนจากภาคเอกชน รวมถึงการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ในตลาดรถยนต์" นายซึงาตะ กล่าว

สำหรับกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แต่คิดว่าอาจมีความเสี่ยงมากขึ้นหากปัญหายืดเยื้อออกไปจะส่งผลกระทบให้ภาวะเศรษฐกิจของจีนถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบทางอ้อมในฐานะที่จีนเป็นคู่ค้าสำคัญ แต่กรณีที่ผู้ผลิตรถยนต์ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้านั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่อบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย

ส่วนการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ช่วยลดต้นเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM2.5 นั้น นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานกรรมการ กล่าวว่า เครื่องยนต์ของบริษัทฯ รองรับเชื้อเพลิงไบโอดีเซล B20 โดยไม่มีแผนจะผลิตรถปิกอัพในประภทอื่น เพราะเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัทฯ มีศักยภาพที่ดีพอตามมาตรฐาน EURO4 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังขอความร่วมมือจากโรงงานและตัวแทนจำหน่ายให้กวดขันดูแลในเรื่องดังกล่าว และมีโครงการปลูกป่าปีละราว 2 ล้านไร่ แต่หลังจากนี้คาดว่าจะมีการตั้งทีมเพื่อไปหารือกับภาครัฐในเรื่องการส่งเสริมให้ใช้น้ำมันดีเซล B20

นายนินนาท ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการภายหลังจากการเลือกตั้งแล้วคือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความต่อเนื่องของนโยบายที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้ประกาศไว้

ด้านนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงโครงการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าว่า บริษัทฯ ได้เสนอขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)ไปแล้ว ซึ่งมีกรอบเวลาที่จะเริ่มทำการผลิตภายใน 3 ปี โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ทั้งในเรื่องความพร้อมด้านสาธารณูปโภค เช่น สถานีชาร์จไฟ ปริมาณจราจร การตอบรับของตลาด การพัฒนาคุณภาพแบตเตอรี่ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องการกำหนดราคารถ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ