นายสาร์รัฐ ประกอบชาติ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า พพ. ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้พัฒนาเกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงานในบ้านอยู่อาศัยขึ้นเป็นครั้งแรก และสร้างต้นแบบบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นแนวทางส่งเสริมการจัดการพลังงานที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้ประชานทราบได้ว่าบ้านพักอาศัยกำลังใช้ไฟฟ้าเกินความจำเป็นหรือไม่
โดยเกณฑ์มาตรฐานสำหรับปี 2562-2564 บ้านเดี่ยวสร้างใหม่ ควรมีค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 25 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ตร.ม.-ปี และสำหรับห้องแถว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด สร้างใหม่ ควรมีตัวเลขไม่เกิน 44 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ตร.ม.-ปี สำหรับพลังงานไฟฟ้าในระบบปรับอากาศและระบบแสงสว่าง พร้อมพัฒนา "โปรแกรมคำนวนการใช้พลังงานในบ้าน" ตัวช่วยพิจารณาสภาพการใช้ไฟฟ้าในบ้าน บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ง่ายๆ ด้วยบิลค่าไฟย้อนหลัง และแปลนบ้านอีโค่ออนไลน์ เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบบ้านอนุรักษ์พลังงานที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมประเทศไทย
"เพื่อให้ง่ายแก่การเปรียบเทียบสำหรับประชาชน และนักออกแบบ ในการพิจารณาสภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านอยู่อาศํย พพ. ได้พัฒนาโปรแกรมคำนวนการใช้พลังงานในบ้านใหม่ล่าสุด โดยคำนวณค่าพลังงานไฟฟ้าตลอดทั้งปี ในระบบปรับอากาศและระบบไฟฟ้าแสงสว่างของบ้าน เทียบกับพื้นที่ใช้สอยที่มีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า แล้วเปรียบเทียบกับตัวเลขมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน รวมถึงพัฒนาต้นแบบแปลนบ้านอีโค่ออนไลน์ ทั้งในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านสองชั้น ตึกแถว ฯลฯ เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบ หรือพิจารณาประกอบการเลือกซื้อบ้านได้ในอนาตต โดยโปรแกรมคำนวนพลังงาน และแบบแปลนบ้านออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ www.dede.go.th"นายสาร์รัฐ กล่าว
ทั้งนี้ ตัวเลขมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานดังกล่าว จะนำไปใช้ส่งเสริมในระยะ 20 ปี โดยจะมีการวิจัยค่ามาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานใหม่ทุก ๆ 5 ปี เพื่อเป็นมาตรฐานในการออกแบบทางพลังงานสำหรับบ้านอยู่อาศัย อันจะก่อให้เกิดผลในวงกว้างเช่นเดียวกับมาตรฐานด้านพลังงานในอาคารขนาดใหญ่ และเกิดการประหยัดพลังงานของประเทศได้ตามเป้าหมาย โดยตั้งเป้าลดปริมาณการใช้พลังงานภาคที่อยู่อาศัยรวมลงประมาณ 13,633 กิกะวัตต์-ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การใช้พลังงานของประเทศกำลังเพิ่มขึ้นแบบไร้ขีดจำกัด หนึ่งในสัดส่วนสำคัญมาจากการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน มีสัดส่วนจำนวนบ้านเรือนที่มีการใช้ไฟเกินทั่วประเทศเฉลี่ยราว 40% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศเกินความจำเป็น