ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ม.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐสนับสนุนให้ใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังซ์สวิส
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.4622 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4673 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9681 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.9713 ดอลลาร์ต่อยูโร
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงแตะระดับ 106.67 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.00 เยนต่อดอลลาร์ และ 1.0990 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1003 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
นายเดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติกส์กล่าวว่า "ค่าเงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลยอดค้าปลีกที่น่าผิดหวังในประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม การที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และยูโรนั้น ไม่ได้สะท้อนว่านักลงทุนเริ่มหันมาสนใจสกุลเงินดอลลาร์อย่างจริงจัง"
"ผมคาดว่าดอลลาร์จะอ่อนตัวลงอีกเนื่องจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง" นายกิลมอร์กล่าว
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเกือบ 400 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แม้สหรัฐประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเห็นชอบกับแผนการปรับลดภาษีและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งมีมูลค่ารวม 1.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมุ่งหวังที่จะสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ บุชกล่าวว่า งบประมาณจำนวนดังกล่าวซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นั้น มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งแม้จะเป็นมาตรการชั่วคราว แต่หากมีการบังคับใช้ก็จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่อไปได้ และมีการสร้างงานมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในช่วงกลางเดือนมกราคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 80.5 จุด จากระดับ 70.5 จุดในเดือนธันวาคม ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับตัวลดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--