ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) หลังจากที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชมูลค่า 1.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างได้ผล
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 59.91 จุด หรือ 0.5% แตะระดับ 12,099.3 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งยังมีมุมมองในเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น
จอห์น ไคเรียคูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอลกล่าวว่า "ตลาดยังมีความกังวลว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของบุชอาจไม่สามารถช่วยให้สหรัฐรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ได้ให้น้ำหนักกับสัญญาณในเชิงบวกที่ได้รับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ออกมาให้ความเชื่อมั่นว่า เฟดพร้อมที่จะประกาศใช้นโยบายเชิงรุกด้วยการปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในปลายเดือนนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและภาคอสังหาริมทรัพย์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 05.55 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงแตะ 106.81 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 106.87 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์ก ขณะที่เงินยูโรขยับลดลงแตะ 1.46 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเทียบกับ 1.4622 ดอลลาร์ต่อยูโร และเงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ 1.9572 ดอลลาร์ต่อปอนด์เมื่อเทียบกับ 1.9555 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 88.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 87.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากที่นายเกล็น สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียออกมาส่งสัญญาณว่า ธนาคารอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยังมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังคงไต่ระดับสูงขึ้นในระยะสั้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--