นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า วิกฤติปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนอยู่ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการสะสมของรถยนต์ Euro 4 ซึ่งปล่อยฝุ่นควันจำนวนมาก
ดังนั้น สศอ. เตรียมประสานงานกับสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อออกมาตรฐานบังคับสำหรับผู้ประกอบการรถยนต์ต้องผลิตรถให้ได้มาตรฐาน Euro 5 เพื่อเป็นแนวทางในการลดมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ให้เร็วขึ้น โดยเตรียมกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ผลิตรถยนต์ใหม่ในประเทศต้องผ่านมาตรฐาน Euro 5 เป็นขั้นต่ำ ภายใน 1-2 ปี และกำหนดให้โครงการผลิตรถยนต์ xEV ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ต้องผลิตรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6 โดยคาดว่าการยกระดับมาตรฐานตามสหภาพยุโรป (EU) จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 37,391 ตัน หรือลดลงจากเดิมประมาณ 80% ภายในปี 2564
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้มาตรฐาน Euro 5 ได้เนื่องจากค่ายรถบางค่ายชี้แจงว่าการบังคับเป็น Euro 5 จะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.5-2 หมื่นบาทต่อคัน แต่เมื่อมีการประเมินต้นทุนจริงคิดว่าไม่น่าจะถึงเพราะสุดท้ายค่ายรถยนต์ก็ทยอยออกรถยนต์รุ่นใหม่และพบว่าสามารถใช้น้ำมันมาตรฐาน Euro 5 เป็นส่วนใหญ่ได้โดยเฉพาะรถอีโคคาร์ 2 ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานเองก็เตรียมพร้อมโรงกลั่นในประเทศที่จะผลิตน้ำมัน Euro 5 ได้ทันทีเมื่อค่ายรถพร้อม
"เรามาถึงจุดที่ประเทศไทยต้องปรับ คาดว่าภายใน 1-2 ปีจะปรับเป็น Euro 5 ทั้งหมด จะปล่อยไหลตามหลังสหภาพยุโรป 14-15 ปีคงเป็นไปไม่ได้ ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เข้าใจว่ามีต้นทุน ประชาชนก็มีต้นทุน ต้นทุนการใช้ชีวิตของประชาชนหากไม่ยกระดับมาตรฐานหน้ากาก N95 ที่ประชาชนซื้อหามาใส่กันทุกวันในราคาที่องค์การเภสัชกรรมขาย ถ้าคิดเป็นตัวเงินก็จะอยู่ 18,250 บาทต่อปีต่อคน เฉพาะคนกรุงเทพอย่างเดียว 11 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าจำนวนเงินค่าหน้ากาก N95 กว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี แต่ถ้าอยู่ในบ้านต้องซื้อเครื่องกรองอากาศราคาประมาณ 19,900 บาทต่อครัวเรือน ยังต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศด้วย...เพราะฉะนั้นถ้าจะปรับที่การผลิตรถยนต์ก็ปรับเถอะ จะปรับโรงกลั่นก็ปรับเถอะ จะช่วยอะไรกันได้ก็ช่วยกันเถอะ ต้องขอความกรุณาช่วยกันผลักดัน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมคงจะต้องเร่งผลักดันแรงๆ เรื่องมาตรฐานกับสมอ. เพื่อให้เดินหน้าได้เร็วที่สุด คงปล่อยไหลไปเรื่อยๆไม่ได้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือเนื่องจากอ้างเรื่องต้นทุน ทั้งๆที่ต้นทุนต่อคันใกล้เคียงกับค่าหน้ากาก N95 เป็นเวลา 1 ปีของประชาชน 1 คน"
ปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ Eco car phase 2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ จำนวน 11 รุ่น ในขณะที่มีรถยนต์นำเข้า 19 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6 ได้แก่ รถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น
"การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองนี้ เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐานใหม่ Euro 5 ขึ้นไป ที่ปล่อยมลพิษและฝุ่นละออง PM2.5 เพียง 1 ใน 5 ของมาตรฐาน Euro 4 เดิม โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 และ Euro 6 ผ่านฉลาก ECO Sticker ที่ติดอยู่บนตัวรถยนต์"นายณัฐพล กล่าว