รัฐอนุมัติให้สัมปทานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งบนบก-ในทะเลอีก 13 แปลง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 21, 2008 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงพลังงานเซ็นสัญญาให้สัมปทานเพื่อสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในเขตพื้นที่แปลงสำรวจบนบกและในทะเลอ่าวไทยอีก 11 สัมปทาน ใน 13 แปลงสำรวจ โดยเป็นแปลงสำรวจบนบก 11 แปลง และในทะเลอ่าวไทย 2 แปลง ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอีก 3 ปีข้างหน้ามูลค่ากว่า 71 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,485 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐจะได้ผลประโยชน์ในรูปของโบนัสการลงนาม ทุนการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่นจำนวน 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 98 ล้านบาท ซึ่งหากสำรวจพบปิโตรเลียมจะมีการลงทุนในช่วงที่ 2 ต่ออีก 3 ปี ซึ่งจะใช้เงินลงทุนอีก 46.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,635 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานเชิญชวนให้ผู้สนใจยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 20 ประกอบด้วย แปลงสำรวจบนบก 56 แปลง และอ่าวไทย 9 แปลง โดยมีอายุสัมปทาน 1 ปี ซึ่งนับถึงเดือน ม.ค.51 มีผู้ยื่นคำขอสัมปทานรวม 58 คำขอ ใน 38 แปลงสำรวจ
โดยผู้ที่ได้รับอนุมัติ ได้แก่ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/50 ให้แก่บริษัท เพิร์ลออยล์ปิโตรเลียม, แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G3/50 และแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L19/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ให้แก่บริษัท ซิตร้าออยล์เอ็กซ์โพเรชั่นเฮ้าส์, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L1/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.น่าน และพะเยา และแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L2/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.น่าน และแพร่ ให้แก่บริษัท นอร์ธเทิร์นแก๊สออยล์ประเทศไทย,
แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L15/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ หนองบัวลำภู และเลย ให้แก่บริษัท ซาลาแมนเดอร์เอ็นเนอร์ยี แอลแอนด์พี ลิมิเต็ด, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L18/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.มุกดาหาร และนครพนม ให้แก่บริษัท อ่าวสยามมารีน, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L20/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และพิจิตร ให้แก่บริษัท คานาวอนปิโตรเลียมลิมิเต็ด และบริษัท ซันรีซอสเซสเอ็มแอล, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L21/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ให้แก่บริษัท เพิร์ลออยล์รีซอสเซส,
แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L22/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ ให้แก่บริษัท Adani Welstun เอ็กซ์โพเรชั่น ลิมิเต็ด, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L45/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และกรุงเทพฯ และแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L46/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา และนนทบุรี ให้แก่บริษัท มิตร้าเอ็นเนอร์ยีลิมิเต็ด, แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L16/50 ครอบคลุมพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร และร้อยเอ็ด ให้แก่บริษัท คาลเท็กซ์ไทยแลนด์แอลแอลซี
ปัจจุบันประเทศไทยสามารถปิโตรเลียมในรูปแบบของก๊าซธรรมชาติ คอนเดนเซท และน้ำมันดิบ คิดเป็นปริมาณเทียบเท่าน้ำมันดิบได้วันละ 6.4 แสนบาร์เรล โดยในปีงบ 50 รัฐมีรายได้จากการประกอบกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นเงิน 107,387 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม 35,115 ล้านบาท ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 7,197 ล้านบาท ภาษีเงินได้ 62,639 ล้านบาท และรายได้จากการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียอีก 2,436 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ