นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานร่วมสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย ฝ่ายไทย และประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นต้น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวในงาน การประชุมสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย (Franc-Thailand Business Forum : FTBF) ครั้งที่ 2 ว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศฝรั่งเศสและไทย ในด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงด้านเศรษฐกิจ โดยมองความร่วมมือของทั้งสองประเทศนี้ที่น่าจะเห็นความชัดเจนได้มากที่สุดคือ การลงทุนด้านสมาร์ทซิตี้ (Smart City) ที่จะครอบคลุมถึงเรื่องของดิจิทัล, โครงสร้างพื้นฐานทางการคมนาคม (Transport Infrastructure), การเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานรูปแบบใหม่ (Energy Transition) และ การเกษตรและอาหาร/เศรษฐกิจชีวภาพ (Agri&Food/Bioeconomy) เป็นต้น
ทั้งนี้ฝรั่งเศส ถือเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ของโลก จึงมองหาผู้ที่ให้ความสนใจ หรือผู้ร่วมลงทุน โดยที่ผ่านมาสภานักธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย มีความร่วมมือกันมายาวนานกว่า 2 ปี และมีการจับคู่แล้วกว่า 50 คู่ ซึ่งคาดหวังการประชุมในวันนี้จะส่งผลให้มีจำนวนบริษัทของฝรั่งเศสและไทยร่วมมือกันเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 5-10 คู่
สำหรับในวันพรุ่งนี้ นักธุรกิจจากฝรั่งเศสจะเดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเริ่มจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ และท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดูโครงสร้างพื้นฐานและท่าเรือ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส ยังมองไทยเป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญ จากที่ผ่านมาก็มีการลงทุนในไทยค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันไทยเองก็มีการเข้าไปลงทุนในประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน อย่าง บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และ PTTGC เป็นต้น ซึ่งถือว่าต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยครั้งนี้ก็เชื่อว่าน่าจะมีนักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในประเทศฝรั่งเศสเพิ่มด้วย
"การมาครั้งนี้ของฝรั่งเศส มีจำนวนบริษัทขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก ซึ่งมองว่าทางฝรั่งเศสมีความเข้าใจและทราบถึงสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ โดยในวันนี้ได้มีโอกาสมาพบนักธุรกิจในไทย ก็น่าจะเป็นการสร้างโอกาสเกิดขึ้น"
สำหรับความเชื่อมั่นของนักธุรกิจฝรั่งเศส มองว่ามีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนในไทยเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงในหลายๆด้าน โดยเชื่อว่าการลงทุนของฝรั่งเศสจะยังเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง