นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ 8.75 ล้านตัน แต่ยังไม่สามารถคำนวณมูลค่าได้เพราะราคามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีก โดยหากนับราคาปัจจุบันจะได้มูลค่าประมาณ 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค.51 ส่งออกได้แล้ว 427,800 ตัน ขณะที่เดือน ม.ค.50 ส่งออกได้ 622,000 ตัน
สำหรับผลผลิตข้าวในประเทศปี 51/52 คาดว่าจะมีปริมาณ 29 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 18-19 ล้านตันข้าวสาร แบ่งเป็น บริโภคภายใน 10 ล้านตัน ส่งออก 8-9 ล้านตัน
สต๊อกข้าวรัฐล่าสุดมีน้อยมากเพียง 1.9 ล้านตันข้าวสาร และมีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 50/51 ไม่ถึง 100,000 ตันจากเป้าหมายรับจำนำ 9 ล้านตัน ขณะนี้จึงยังไม่เปิดให้เอกชนเข้ามาประมูล เพราะต้องการเก็บสำรองสำหรับการบริโภคภายในประเทศ และยังคงรอดูสถานการณ์ก่อนจะพิจารณาเปิดประมูล
ด้าน นายชูเกียรติ โอภาสวงการ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิในปีนี้น่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอาจทะลุตันละ 700 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันตันละ 680 เหรียญสหรัฐ ส่วนข้าวขาว 100% น่าจะได้มากกว่าตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ข้าวสารหอมมะลิในประเทศปัจจุบันตันละ 20,000 บาท ส่วนข้าวขาว 5% ประมาณ 11,500 ล้านบาท
"ปีนี้ผู้ส่งออกกังวลว่าจะหาข้าวส่งออกไม่ได้ เพราะข้าวในสต๊อกรัฐเหลือน้อยมาก และยังมีข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำปี 50/51 น้อยมาก ประกอบกับ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นตันละ 15 เหรียญ ทำให้ราคาแพงมากเมื่อเทียบกับเวียดนาม และยังมีค่าระวางเรือที่แพงมากอีกจึงเกรงว่า จะส่งออกไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 8.7 ล้านตันจากปีก่อนที่ส่งออกได้ 9.5 ล้านตัน เพราะผู้ส่งออกได้ข้าวที่รัฐระบายจากสต๊อกถึง 3 ล้านตัน" นายชูเกียรติ กล่าว
นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งรัฐบาลและผู้ส่งออกไทยอยากเห็นข้าวไทยมีราคาส่งออกสูงขึ้นและมีเสถียรภาพ แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย แม้ปีนี้ตลาดจะเป็นของผู้ขายก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อผลผลิตมีน้อยจากภาวะโลกร้อนแล้วผู้ส่งออกจะขึ้นราคาตามใจชอบ เพราะต้องคำนึงด้วยว่า ราคาที่ปรับขึ้นไปนั้น ผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศรับได้หรือไม่
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--