นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการสัมมนา เรื่อง การคุ้มครองเงินฝากและการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินให้กับประชาชน ภาคธุรกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จัดขึ้นโดยสำนักนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ว่า การสัมมนาครั้งนี้ เป็นการจัดสัมมนาวิชาการครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความมั่นใจในประเด็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ทั้งในด้านการคุ้มครองเงินฝาก การกำกับดูแลสถาบันการเงิน การตรวจสอบข้อมูลเครดิต การประกันภัย การลงทุน การออมเพื่อการเกษียณ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินให้แก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมสัมมนาและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
น.ส.วิมล ชาตะมีนา รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้เปิดการสัมมนา พร้อมกล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของ สศค.ที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งในส่วนของนโยบายด้านการคลัง นโยบายด้านภาษี นโยบายทางด้านการเงิน นโยบายด้านการออมและการลงทุน และนโยบายด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ซึ่งมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี
สำหรับการสัมมนาภาคเช้า หัวข้อ "ครบถ้วนทุกมิติความรู้และความคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน" ครอบคลุมสาระสำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) การขับเคลื่อนนโยบายการคุ้มครองเงินฝากเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินในภาพรวม ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการจ่ายเงินฝากคืนให้แก่ผู้ฝากเงินให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 2) การดำเนินงานในภาพรวมของระบบข้อมูลเครดิต ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บ รักษา ประมวล และการรายงานข้อมูล รวมทั้งชี้แนะแนวทางปฏิบัติเพื่อรักษาระดับเครดิตให้ดีและไม่เสียประวัติ และ 3) ในด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน สิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้บริการทางการเงิน รวมทั้งแนะนำแนวทางการป้องกันตนจากภัยทางการเงินที่สำคัญ 5 ประเภท ได้แก่ สื่อสังคมออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ การหลอกลวงในลักษณะ Call Center และการสวมรอยปลองแปลงเอกสาร/บัตร ตลอดจนแนวทางการร้องเรียนของผู้ใช้บริการทางการเงินเมื่อประสบภัยทางการเงินดังกล่าว
ส่วนการสัมมนาภาคบ่าย เป็นการสัมมนาหัวข้อที่ต่อเนื่องจากภาคเช้า โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก เป็นการบรรยายเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ เรื่อง เกษียณสุขเป็นจริงได้ สาระสำคัญ คือ เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการออมและการลงทุนของประชาชนไทยเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณ ตลอดจนได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการนำงบดุลส่วนบุคคล งบรายได้ และงบค่าใช้จ่าย มาเป็นเครื่องมือในการประเมินฐานะทางการเงิน และพฤติกรรมการใช้จ่ายของแต่ละบุคคล ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล ส่วนช่วงที่ 2 เป็นการบรรยายให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการประกันภัย สาระสำคัญ มีการกล่าวถึงการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เพื่อเจตนารมณ์ในการเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในภาพรวมของระบบการประกันภัยไทย พร้อมทั้งได้กล่าวถึงกองทุนประกันวินาศภัยและกองทุนประกันชีวิต ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงแก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยในหลายกรณี อาทิ กรณีบริษัทประกันภัยล้มละลาย หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต เป็นต้น
"การสัมมนาทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย เป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน อันจะสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม" นายพรชัยกล่าว