นายฟาน ไคเหยอ เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ อาจขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 11% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4%
บทความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ นิวส์ระบุคำกล่าวของนายฟานว่า GDP ของจีนในปี 2550 ขยายตัวขึ้น 11.5% แตะระดับ 24 ล้านล้านหยวน ขณะที่ดัชนี CPI ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 4.7% โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา CPI จีนขยายตัวขึ้น 4.6% ขณะที่ในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นที่ 6.9% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ทะยานขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2539 ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงขับเคลื่อนจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น
โดยฟานกล่าวว่า CPI ของจีนจะขยายตัวต่อเนื่องอย่างรวดเร็วในครึ่งแรกของปีนี้ และจะชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม นายฟานกล่าวว่า การขยายตัวในปี 2551 จะปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินในจีน และจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาในสหรัฐ
นอกจากนี้ การขยายตัวด้านการส่งออกจะยังคงชะลอตัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากสถานการณ์เงินหยวนที่แข็งค่า และอุปสงค์ที่ลดลงอันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจในสหรัฐ แต่ยอดเกินดุลการค้าของจีนในปี 2551 จะยังคงเพิ่มขึ้น 22% แตะที่ 3.20 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ นายฟานคาดการณ์ว่า การขยายตัวด้านการลงทุนจะยังคงทรงตัวในระดับสูงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยมีอัตราการขยายตัวที่ 23% ตลอดทั้งปี ทางการจีนจำเป็นต้องจับตาดูความเสี่ยงจากภายนอก ซึ่งประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และราคาทรัพยากรที่สูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศนั้นทางการจะจับตาปัญหาราคาสินค้าที่ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--