จีนกำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จากปัญหาด้านผลผลิตถ่านหินไม่เพียงพอ
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของทางการจีนที่ระบุว่า ภาคกลางของจีน ซึ่งมีโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวกำลังประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า 6,370 เมกกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณผลผลิตถ่านหินสำรองในสถานีจ่ายไฟฟ้า 25 แห่งก็ลดลงอยู่ในระดับต่ำจนถึงขั้นวิกฤต
ทั้งนี้ คลังสำรองถ่านหินทางตอนกลางของจีนจะถูกใช้เพื่อทำการผลิตกระแสไฟฟ้ามากถึงประมาณ 100,000 ตันต่อวัน
รายงานระบุว่า ปริมาณถ่านหินในคลังสำรองมีเหลืออยู่เพียง 5.57 ล้านตัน ซึ่งลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากระดับปกติ และพอที่จะรองรับการใช้ไฟฟ้าได้เพียง 7 วันเท่านั้น ซึ่งโรงงานผลิตไฟฟ้าในมณฑลเสฉวนได้จำกัดการใช้กระแสไฟฟ้าไม่ให้เกินกว่า 20 ล้านกิโลวัตต์ต่อวัน มาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.เป็นต้นมา
โรงงานผลิตไฟฟ้าทางตอนกลางของจีนครอบคลุมการจ่ายไฟไปยังมณฑลเจียงสี หูเป่ย หูหนาน และเสฉวน รวมถึงเมืองฉงชิ่ง
นอกจากนี้ จากสภาพอากาศที่ปกคลุมด้วยหิมะ และฝนตกก็ส่งผลกระทบต่อการขนส่งถ่านหินในบางพื้นที่ของภูมิภาคด้วยเช่นกัน ขณะที่ภาคอื่นๆของประเทศก็ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำ
ทั้งนี้ บริษัท เซาเทิร์น พาวเวอร์ กริด เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บริษัทต้องปิดโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต 10,000 เมกกะวัตต์ในภาคกลาง ซึ่งประกอบด้วยมณฑลยูนนาน กุ้ยโจ้ว กวางสี กวางตุ้ง และไห่หนาน เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนถ่านหิน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--