ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอดทั้งปี 2551 ของจีนและเกาหลีใต้ รวมทั้งยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ 3 รายของญี่ปุ่นหรือบิ๊กทรีอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, ฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์ จะยังคงมีเสถียรภาพ
โดยการดำเนินธุรกิจของบิ๊กทรีของญี่ปุ่นจะเป็นไปด้วยดี เนื่องจากความต้องการรถยนต์คอมแพคและประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทั่วโลก และความต้องการในตลาดเกิดใหม่ที่สูงขึ้น รวมทั้งความต้องการในกลุ่มประเทศ BRIC ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน
ในทางตรงกันข้าม ตลาดรถภายในประเทศของญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นเพราะจำนวนประชากรญี่ปุ่นลดน้อยลงและสัดส่วนประชากรที่มีอายุน้อยลดลงด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ระยะเวลาในการใช้รถแต่ละคันยาวนานขึ้น
สำหรับตลาดสหรัฐ ซึ่งบิ๊กทรีของญี่ปุ่นสามารถทำรายได้ได้เป็นจำนวนมากนั้น ฟิทช์คาดว่า ตลาดรถสหรัฐปีนี้จะซบเซาเพราะได้รับผลกระทบจากซับไพรม์ อย่างไรก็ดี ฟิทช์คาดว่า บิ๊กทรีจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐได้มากขึ้น แม้ว่าจังหวะการขยายตัวจะชะลอตัวลง
ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนจะยังคงได้รับประโยชน์จากความต้องการที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราการใช้งานที่สูงขึ้น แม้ว่าแนวโน้มการขยายตัวอาจจะลดลง โดยยอดขายรถมีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านคันในปีนี้ และมีอัตราการขยายตัวที่ 15-20%
ฟิทช์คาดว่า รถยนต์ขนาดกลางจะผลักดันยอดขายในภาครถยนต์จีนสูงขึ้น และบริษัทรถที่มีรถรุ่นยอดนิยมอยู่ในมืออย่างโฟล์คสวาเกน โตโยต้า และฟอร์ด มอเตอร์ จะอยู่ในจุดยืนที่ทำให้บริษัทมีอัตราการขยายตัวที่ดีที่สุดในปีนี้ โดยยานพาหนะที่ใช้ในเชิงพาณิชย์จะสามารถคงระดับการขยายตัวที่ตัวเลข 2 หลักได้ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการการเดินทางและระบบลอจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--