"สมคิด" ยังยืนเป้าส่งออกปีนี้โต 8% กำชับทูตพาณิชย์ส่ง 3 สัญญาณบวกให้ต่างชาติเชื่อมั่นไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 8, 2019 15:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายและติดตามงานของกระทรวงพาณิชย์ว่า ในเรื่องการผลักดันการส่งออกของไทยในปีนี้ ยืนยันว่าจะไม่ปรับเป้าหมายมูลค่าการส่งออกที่ได้ตั้งเป้าขยายตัวไว้ 8% จากปี 61 แต่ได้มอบนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สั่งการทูตพาณิชย์ให้ทำงานหนักขึ้นในการรักษาและขยายส่วนแบ่งตลาดส่งออกทั้งตลาดเก่า และตลาดใหม่

ขณะที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากนั้น ยังต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยต้องให้พาณิชย์จังหวัด และค้าภายในจังหวัดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อปลุกเศรษฐกิจฐานรากให้คึกคัก ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร และลดต้นทุนการผลิต ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ จัดหาปุ๋ยราคาถูกกว่าท้องตลาดเข้าไปวางจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้เกษตรกรหาซื้อได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในเร็ว ๆ นี้

"ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน รัฐบาลมีหน้าที่ประคับประคองประเทศให้เปลี่ยนผ่านไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งการที่นักลงทุนจะเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของไทยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะส่งสัญญาณไปอย่างไร ขอให้กระทรวงพาณิชย์สั่งการทูตพาณิชย์ให้ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อนักลงทุนทั่วโลกว่า ปีนี้ประเทศไทยมีแต่เรื่องดี ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นถึง 3 เรื่อง ทั้งพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก, การเลือกตั้ง และเป็นประธานอาเซียน ซึ่งต้องใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

พร้อมยืนยันว่า ไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (CPTPP) แน่นอน หลังจากมีผลบังคับใช้เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา และสมาชิกทั้ง 11 ประเทศ ได้ประชุมเพื่อกำหนดกลไกการรับสมัครใหม่ไปแล้ว จึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นสมาชิกต่อประเทศนิวซีแลนด์ แต่การจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกต้องไม่ทำให้ส่วนใหญ่เดือดร้อน หรือได้รับผลกระทง

พร้อมกันนี้ ต้องเร่งบรรลุการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค (RCEP) ระหว่างอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจา 6 ประเทศคือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้เสร็จภายในปีนี้ ตามเป้าหมายของผู้นำทั้ง 16 ประเทศ ซึ่งได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดคณะเดินทางไปเจรจากับประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะอินเดีย เพื่อให้การเจรจาบรรลุผล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในฐานะที่เป็นประธานอาเซียน

ด้านน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP จะเชิญประชุมเพื่อสอบถามความเห็นของที่ประชุมอีกครั้ง จากนั้นจึงจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบการส่งหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยคาดว่าจะนำเสนอ ครม.ได้ในเร็ว ๆ นี้ และส่งหนังสือแสดงเจตจำนงได้ทันภายในรัฐบาลนี้แน่นอน

หลังจากนั้น สมาชิกทั้ง 11 ประเทศจะตั้งคณะทำงานพิจารณาและเจรจาต่อรองกับไทย แต่จะประกาศว่าไทยได้เป็นสมาชิกหรือไม่ หรือเป็นสมาชิกเมื่อไร ขึ้นอยู่ที่การเจรจาของไทยกับสมาชิก ส่วนการเจรจา RCEP นั้น ไทยตั้งเป้าหมายสรุปผลการเจรจาให้ได้ทั้งหมดภายในปีนี้ที่ไทยเป็นประธานอาเซียน

อนึ่ง ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์เคยยืนยันว่า ไทยคงไม่สามารถส่งหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน เพราะไทยมีเวลาน้อยในการศึกษาข้อดี ข้อเสีย และรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน หากจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกจริง จะต้องหาข้อมูลและรับฟังความเห็นมากกว่านี้ เพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่จะเจรจาต่อรองและให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด แต่จากการมาติดตามงานของกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ นายสมคิด ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมยื่นเข้าเป็นสมาชิกให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศในภาวะที่ไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง และอาจมีความไม่แน่นอนต่างๆ เกิดขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ