สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นในปีที่แล้วขยายตัว 3.4% แตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี ที่ 120.19 ล้านตัน โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของอุปสงค์เหล็กแผ่นสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และชิปคอมพิวเตอร์ รวมถึงยอดสั่งซื้อจากประเทศอื่นๆในเอเชียที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นทางสมาคมยังคาดการณ์ว่า ผลผลิตเหล็กกล้าจะยังคงขยายตัวในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์จากภาคการผลิตจะยังคงแข็งแกร่ง แม้อุปสงค์จากภาคการก่อสร้างจะชะลอตัวลงหลังรัฐบาลประกาศใช้ข้อกำหนดการก่อสร้างที่เข้มงวดขึ้นก็ตาม
เมื่อแยกตามประเภท ผลผลิตเหล็กพิเศษสำหรับใช้ในการผลิตยานพาหนะและชิ้นส่วนเครื่องจักรต่างๆ มีการขยายตัว 2.4% แตะระดับสูงสุดเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ 26.14 ล้านตัน ในขณะที่ผลผลิตเหล็กทั่วไปมีการขยายตัว 3.7% เป็น 94.05 ล้านตัน
ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ผลผลิตเหล็กดิบมีการขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 10.38 ล้านตัน นับเป็นการขยายตัวเดือนที่ 19 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเดือนดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ผลผลิตเหล็กดิบพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 119.32 ล้านตัน ในปี 2516 โดยมีการนำไปใช้มากที่สุดในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
อุปสงค์เหล็กกล้าหดตัวลงอย่างรวดเร็วหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 หลังจากนั้นก็เกิดภาวะฟองสบู่แตกในต้นทศวรรษ 1990 และวิกฤติเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกในปี 1997 โดยผลผลิตเหล็กกล้าร่วงลงอย่างหนักต่ำกว่าระดับ 100 ตัน ในปี 1998 และ 1999
ผลผลิตเหล็กกล้าเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2002 หลังเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนและประเทศเศรษฐกิจใหม่อื่นๆ ทั้งนี้ ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นประกอบด้วย นิปปอน สตีล คอร์ป และ เจเอฟอี สตีล คอร์ป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--