เอียน มอร์ริส นักวิเคราะห์จากธนาคาร HSBC คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (federal funds rate) ของสหรัฐจะลดลงแตะระดับ 2.0% ภายในปลายปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
มอร์ริส ยังคงมีมุมมองในด้านบวกต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐตลอดปี 2551 หลังจากที่สหรัฐประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการคลัง และตลาดแรงงานที่ยังมีสถานะที่แข็งแกร่ง โดยเขาคาดว่าอัตราว่างงานในช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ 5.4%
"เมื่อพิจารณาจากความพร้อมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเนื่องจากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลงนั้น ผมคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.50% แตะระดับ 3% หลังจากการประชุมครั้งหน้า" เขากล่าว
ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ลง 0.75% สู่ระดับ 3.50 % และปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลง 0.75% สู่ระดับ 4.00% โดยเฟดระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดการเงินยังคงซบเซาลง
"ถ้าเศรษฐกิจยังเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นนี้ เราก็คาดว่าเฟดจะต้องใช้มาตรการยับยั้งเศรษฐกิจมากขึ้นอีก ซึ่งรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยด้วย" มอร์ริสกล่าว
ทั้งนี้ มอร์ริสคาดว่า ตัวเลขจีดีพีของสหรัฐจะขยายตัวขึ้นในอัตรา 1.1% ในไตรมาสแรกและไตรมาส 2 และคาดว่าจะขยายตัวขึ้นที่ระดับ 1.8% ในไตรมาส 3 และ 3.3% ในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้ คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานจะอยู่ที่ระดับ 1.8% ในไตรมาส 4 ปีนี้ แม้ราคาพลังงานและราคาอาหารยังคงปรับตัวสูงขึ้น และแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงก็ตาม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--