น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) หน่วยงานที่เก็บรักษาข้าวรัฐ รายงานว่า ได้สรุปคดีทางแพ่ง และส่งให้อัยการไปแล้วทั้งหมดตั้งแต่สิ้นเดือนธ.ค.61 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของอัยการส่งฟ้องร้องต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้กระทำผิด ซึ่งทุกคดียังไม่หมดอายุความ
พร้อมระบุว่า รัฐบาลชุดนี้รับข้าวสารในสต็อกมาจากรัฐบาลก่อนทั้งหมด 18.7 ล้านตัน แต่นำมาประมูลขายได้จริงเพียง 17.6 ล้านตัน เพราะมีส่วนเหลื่อมทางบัญชีประมาณ 940,000 ที่ยังหาข้าวไม่พบ อย่างไรก็ตาม ในข้าว 17.6 ล้านตันนั้น กรมการค้าต่างประเทศ ได้ระบายออกจนหมดแล้วตั้งแต่ปี 61 เหลืออีกไม่มากที่ยังติดคดี และมีบางส่วนอีก 200,000 ตันเศษๆ ที่ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบ จึงจะนำออกมาระบายเร็ว ๆ นี้ แต่ต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบตลาด
ส่วนข้าวสารในสต็อกรัฐบาลที่มีส่วนเหลื่อมทางบัญชีอีกประมาณ 940,000 ตัน จากข้าวในบัญชีทั้งหมด 18.7 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวนอกบัญชี และไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพนั้น นบข. ได้สั่งการให้ตรวจสอบโดยเร็วว่ามีอยู่จริงหรือไม่ และเก็บอยู่ที่ใดบ้าง เพื่อจะได้นำออกมาประมูล ซึ่ง อคส. และ อ.ต.ก.อยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (ส.ต.ง.) ให้ตรวจสอบแล้วตั้งแต่กลางปี 61 ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
"ข้าวส่วนเหลื่อมทางบัญชี 940,000 ตัน ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ถ้าอคส.และอ.ต.ก.บอกว่า ข้าวมีอยู่จริง แต่ขายออกไปแล้วโดยที่ไม่ได้หักออกจากบัญชี ก็ต้องบอกให้ได้ว่าขายให้ใคร อย่างไร หรือข้าวไปอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบ แต่คิดว่า ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นข้าวที่นำไปทำข้าวสารบรรจุถุง เพื่อขายให้ประชาชนในราคาถูกในสมัยรัฐบาลชุดก่อน แต่มีปัญหาทุจริตเกิดขึ้น แล้วผลิตเป็นข้าวถุงไม่ครบตามปริมาณที่อนุมัติให้ทำ ส่วนที่เหลือก็ต้องคืนเข้าหลวง แต่ไม่รู้ว่า ผู้ที่นำไปผลิตเอากลับมาคืนหลวงครบหรือไม่ อย่างไร ถ้าไม่ครบก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย" รมช.พาณิชย์กล่าว