นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อคืนนี้ จะยิ่งทำให้ธนาคารกลางจีนได้รับแรงกดดันมากยิ่งขึ้น
"ขณะที่เฟดมีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่ประกาศดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นและดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.75% เมื่อคืนนี้นั้น เราคาดว่าความเคลื่อนไหวของเฟดจะยิ่งทำให้ธนาคารกลางจีนเร่งควบคุมอัตราการขยายตัวของการปล่อยกู้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อด้านราคาสินทรัพย์และการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ" นายสตีเฟ่น กรีน นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าว
"ความเคลื่อนไหวของเฟดสร้างแรงกดดันให้กับธนาคารกลางจีนอย่างชัดเจน และทำให้เราเชื่อว่าธนาคารกลางจีนจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราการขยายตัวด้านการปล่อยกู้ โดยคาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งสิ้น 1.00% ภายในปีนี้"
"แต่ยิ่งเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเท่าใด ก็มีกระแสคาดการณ์มากขึ้นเท่านั้นว่าธนาคารกลางจีนจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะจะยิ่งทำให้เม็ดเงินเก็งกำไรไหลบ่าเข้าสู่ประเทศจีนมากขึ้น" นายกรีนกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรีนเชื่อว่า อัตราดอกเบี้ยในจีนมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเพื่อสกัดกั้นการขยายตัวของเงินกู้ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--